‘ปิยบุตร’ ย้ำหมวด 1-2 แก้ได้ถ้าจำเป็น แต่ต้องอยู่ในกรอบ ปชต.อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

“ปิยบุตร” หนุนโมเดลไทยมีสภาเดี่ยว ย้ำหมวด 1-2 แก้ได้ ในอดีตก็มีแก้ไขมาแล้ว แต่ต้องอยู่ในกรอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 10 กันยายน ที่รัฐสภา นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการทำหน้าที่ กมธ.แก้รัฐธรรมนูญทิ้งท้าย ว่า ความเห็นมีทั้งหมด 25 หน้า ซึ่งก็มีหลากหลายประเด็น บางประเด็นก็เห็นตรงกันกับ กมธ.เสียงส่วนใหญ่ แต่บางประเด็นก็เห็นค้านกับกมธ.เสียงส่วนใหญ่ เช่น กรณีหมวด 1 หมวด 2 ของรัฐธรรมนูญสามารถแก้ไขได้ หรือในบางกรณีที่ในอดีตเคยมีการแก้ไขมาแล้ว และถ้ามีความจำเป็นจะต้องแก้เพื่อให้สอดคล้องกับประชาธิปไตยก็ต้องแก้ได้ภายใต้กรอบระบอบการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

นอกจากนี้ สนับสนุนให้ประเทศไทยมีสภาเดี่ยว การลบล้างผลพวงของรัฐประหาร การแก้ไขที่มาขององค์กรอิสระ ระบบการตรวจสอบถ่วงดุลการทำงานขององค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญ การเพิ่มอำนาจให้สภาในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ฯลฯ โดยวันนี้ (10 กันยายน) หากมีโอกาส จะขออนุญาตประธานสภาลุกขึ้นอภิปรายในประเด็นต่างๆ เหล่านี้ ทั้งนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบรายมาตรา และแบบยกร่างทั้งฉบับสามารถทำไปพร้อมกันได้ แต่กว่าจะมี ส.ส.ร. กว่าจะไปประชามติ กว่าจะเลือกตั้ง ส.ส.ร. กว่าจะทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กว่าจะผ่านสภา ไปทำประชามติ ออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญต่างๆ อย่างสมบูรณ์แบบเผลอๆรัฐบาลชุดนี้อยู่ครบ 4 ปีเลย ซึ่งระหว่างทางกว่าจะไปถึงวันนั้น เราสามารถแก้ไขรายมาตราได้ โดยเฉพาะมาตราที่เป็นปัญหาจริงๆ ในระบบรัฐธรรมนูญปี 60

เมื่อถามถึงข้อเสนอของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา นายปิยบุตรกล่าวว่า เห็นว่าสภาหน้าที่หลักคือเป็นตัวแทนของประชาชน เราปฏิเสลธไม่ได้ว่า นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนจำนวนมากที่ชุมนุมกันทั่วประเทศ และอาจจะเพิ่มจำนวนขึ้นอีกในวันที่ 19 กันยายน และเดือนถัดๆ ไป ประเด็นหนึ่งที่เขาพูดกันคือการปฏิรูปสถาบันฯ เมื่อนอกสภาพูดแล้ว ในสภาในฐานะตัวแทนประชาชนตนเห็นว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องพูด และทั้งหมดนี้ไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองแต่อย่างใด

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image