ศิษย์เก่า ลูกแม่โดม เห็นต่าง เมื่อรุ่นน้องยืนยันจะจัดชุมนุมใหญ่19ก.ย.ที่มธ.ท่าพระจันทร์

ศิษย์เก่า “ลูกแม่โดม” เห็นต่าง เมื่อรุ่นน้องยืนยันจะจัดชุมนุมใหญ่19ก.ย.ที่มธ.ท่าพระจันทร์

วันที่ 12 กันยายน นับถอยหลังอีก 7 วันที่กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นัดจัดชุมนุมใหญ่วันที่ 19 กันยายน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) ท่าพระจันทร์ ที่ประเด็นเริ่มบานปลายไปเรื่อยๆ หลังผู้บริหารมธ.ไม่ให้จัดชุมนุมในพื้นที่ แต่ทางแกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ยืนยันจะชุมนุม ขณะที่ศิษย์เก่าลูกแม่โดมก็แบ่งเป็น 2 ฝ่ายที่สนับสนุนและคัดค้าน ต่างล่าชื่อสนับสนุนฝ่ายตนเอง

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่หน้าตึกโดม มธ.ท่าพระจันทร์ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เตรียมพวงหรีดดอกไม้สีเหลือง-แดง มีข้อความว่า ‘อาลัยจิตวิญญาณธรรมศาสตร์’ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวว่า การที่ มธ.ออกแถลงการณ์ไม่ให้จัดชุมนุม โดยระบุว่า หนังสือขออนุญาตไม่เข้าเงื่อนไข พวกตนส่งแล้ว และทำตามเงื่อนไขทุกขั้นตอน กลับบอกว่าไม่อนุญาต

“ผิดหวังมาก ครั้งแรกที่ก้าวมาตอนปฐมนิเทศ มีการพูดถึงการต่อสู้ของคนเดือนตุลา บอกว่าเป็นมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง แต่ตอนที่เราต้องการใช้พื้นที่และชื่อในการนำประชาธิปไตยคืนมา กลับไม่ให้ใช้”น.ส.ปนัสยากล่าวและว่า ยืนยันว่าจะจัดชุมนุมในวันที่ 19 กันยายน หากวันดังกล่าวมีการล็อกกุญแจ พวกตนจะตัดแม่กุญแจออกเพื่อเข้าชุมนุมใน มธ. ตนขอให้มหาวิทยาลัยทบทวนใหม่ ตนพร้อมเจรจา

Advertisement

จากนั้นน.ส.ปนัสยา ถือพวงหรีดไปวางยังหน้าอนุสาวรีย์ นายปรีดี พนมยงค์ ผู้ประศาสน์การมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บริเวณลานริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยกล่าวกับอนุสาวรีย์ว่า “อาจารย์คะ เขาไม่ให้ใช้สถานที่ แต่อาจารย์ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูใช้แน่นอน” จากนั้น ยืนชู 3 นิ้ว

วันเดียวกัน มีผู้ใช้ชื่อว่า ‘วาดดาว (ชุมาพร) แต่งเกลี้ยง’ ระบุว่า เป็นศิษย์เก่าคณะศิลปศาสตร์ มธ. สร้างแคมเปญรณรงค์ผ่านเวปไซต์ change.org โดยใช้หัวข้อ “เปิดประตูธรรมศาสตร์ 19 กันยา เพื่อการชุมนุม” ระบุข้อความว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นมหาวิทยาลัยที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาอย่างยาวนาน จนมาถึงวิกฤตทางการเมืองในปัจุบัน ธรรมศาสตร์ก็ยังคงยืนหยัดต่อสู้กับเผด็จการหลังการรัฐประหารปี 2557 ด้วยการจัดเวทีวิชาการ และชุมนุมหลายครั้ง เพื่อสื่อสารความจริงของสังคมและวิชาการให้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างสันติ หนึ่งในนั้นคือเวทีของ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่จัดการชุมนุมวันที่ 10 สิงหาคม และจะจัดการชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 19 กันยายน เพื่อให้เสียงของนักเรียน นักศึกษา และประชาชน ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงและแก้ไขปัญหาทางการเมืองร่วมกัน

“จึงขอเชิญชวน นักเรียน นักศึกษา ศิษย์เก่า และประชาชน ร่วมกันลงชื่อเรียกร้องให้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เปิดพื้นที่และอำนวยความสะดวกแก่การชุมนุม รวมทั้งหามาตรการปกป้องและคุ้มครองผู้เข้าร่วมชุมนุม รวมไปถึงป้องปรามการคุกคามทุกรูปแบบ”

Advertisement

ขณะที่ นายแก้วสรร อติโพธิ์ ศิษย์เก่า มธ.และอดีตรองอธิการบดี มธ. เปิดห้องประชุมประกอบ หุตะสิงห์ มธ. แถลงข่าวเห็นด้วยที่ มธ.ไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่จัดชุมนุมในวันที่ 19 กันยายน

นายแก้วสรรกล่าวว่า จะมีการลงชื่อในนามศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จนถึงวันที่ 15 กันยายน เพื่อนำไปยื่นต่อผู้บริหาร มธ. และจะกราบเรียนเชิญ ศ.พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยว่า มีคนกลุ่มหนึ่งไม่เห็นด้วยกับน้องๆ

“เราไม่ได้พูดถึงสิ่งที่น้องๆ จะพูด หรือคิดอะไร อย่างไร เพราะสิ่งที่เราไม่เห็นด้วยไม่ใช่เรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็น แต่ไม่เห็นด้วยในการใช้สิทธิชุมนุมโดยมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เราไม่ต้องการเห็นธรรมศาสตร์เป็นฐานทัพของการละเมิดรัฐธรรมนูญจนบ้านเมืองเสียหายได้”นายแก้วสรรกล่าว

ทั้งนี้ ร่างหนังสือ มีเนื้อหาดังนี้ ด้วยฐานะบรรดาศิษย์เก่าธรรมศาสตร์เล็งเห็นว่านักศึกษา “แนวร่วมกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม” ไม่มีทั้งความโปร่งใส, ความรับผิดชอบ และความสามารถที่จะจัดชุมนุมโดยสงบสมตามที่กล่าวอ้างได้ จึงขอเรียนไปยังผู้ที่รับผิดชอบ ได้โปรดพิจารณามีคำสั่งปฏิเสธคำขอใช้พื้นที่ชุมนุมในมหาวิทยาลัยของนักศึกษากลุ่มนี้

ทั้งนี้ ผู้ขอจัดการชุมนุม แถลงว่าจะเปิดชุมนุม 1 วัน 1 คืน จากนั้นจะเดินขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อ“ต่อสู้สร้างแผลให้เผด็จการอย่างไม่รู้ลืม” และสัญญาว่า “พี่น้องจะไม่กลับมือเปล่าอย่างแน่นอน” ขบวนที่ยกไปทำเนียบนี้ เห็นว่ามีคุณภาพเป็นมวลชนแห่งความจงเกลียดจงชัง ที่ผ่านการปลุกปั่นมายาวนานในโลกไซเบอร์ เมื่อมารวมตัวกันจริงๆ บนท้องถนนแล้ว ยิ่งจะก้าวร้าวราวกับเรดการ์ด จนยากที่จะเชื่อหรือหวังในความสงบ นอกจากนี้ มองไม่เห็นเลยว่านักศึกษากลุ่มนี้จะมีความสามารถในการนำ ควบคุม จัดการ คุ้มครอง ผู้ชุมนุมได้อย่างไร คำกล่าวที่ว่าจะชุมนุมโดยสงบจึงเป็นเรื่องเกินศักยภาพทั้งสิ้น

“ท้ายที่สุดกลุ่มศิษย์เก่าเห็นว่าเป็นไปไม่ได้เลย ที่นักศึกษากลุ่มนี้จะมีการนำและการจัดการโดยอิสระลำพังกลุ่มตนเองได้ และด้วยเหตุที่กฎหมายชุมนุมสาธารณะได้ยกเว้นไว้ ไม่ให้นำมาตรการตรวจสอบมาใช้กับการชุมนุมในสถานศึกษาจนเปิดช่องให้มีการวางแผนเลี่ยงกฎหมาย โดยขอจัดชุมนุมในมหาวิทยาลัยส้องสุมกำลังก่อน แล้วยกขบวนออกไปอาละวาดนอกมหาวิทยาลัยต่อไป ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา ศิษย์เก่าท้ายบันทึกดังกล่าวจึงเห็นว่าคำขอจัดชุมนุมครั้งนี้ไม่สุจริต ไม่โปร่งใส ไม่มีความสามารถและความรับผิดชอบที่ต่ำกว่ามาตรฐานประชาธิปไตย จนไม่อาจรับรองให้ชุมนุมโดยอิสระในสถานศึกษาได้”ร่างหนังสือระบุ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image