‘มาร์ค’เชื่อ’บิ๊กตู่’เปลี่ยนอนาคตประเทศได้ดีกว่าเดิม มั่นใจ กปปส.ไม่เป่านกหวีดป่วน (คลิป)

“มาร์ค” ชี้ “บิ๊กตู่” อยู่ในสถานะกำหนดอนาคตประเทศที่ดีกว่าได้ เชื่อ “มีชัย” เจตนาดี แต่ไม่เป็นตามที่หวัง โอด รธน.ไม่เป็นตามฝัน ยันหากคำถามพ่วงผ่าน ส.ว. กลายเป็นพรรคการเมืองทันที มั่นใจ “สุเทพ” ไม่เป่านกหวีดป่วนประชามติ

เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 3 สิงหาคม ที่วัดวรจรรยาวาส ถนนเจริญกรุง 72 กรุงเทพฯ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังทำบุญวันเกิดครบรอบ 52 ปี ว่า เป็นโอกาสดีที่ทบทวนชีวิตตัวเอง คิดว่าครึ่งชีวิตที่อุทิศมากับการเมือง เป็นการสานฝันที่มีตั้งแต่ตอนเด็กที่อยากมีบทบาทช่วยเหลือบ้านเมืองให้มีการพัฒนา ผ่านมา 20 กว่าปี ในวัย 52 ปี ได้ทำอะไรเยอะมาก แต่ยังมีความห่วงใยปัญหาหลายอย่าง ที่เราอยากแก้ไข และทำไม่สำเร็จ ขอขอบคุณทุกคนที่ทำให้มีวันนี้ เรามีหน้าที่ทดแทนบุญคุณแผ่นดิน สานฝันให้เป็นจริง อยากเห็นบ้านเมืองพัฒนา ประชาชนก้าวพ้นความยากจน สังคมก้าวพ้นความขัดแย้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ เราจะยึดความต้องการ ความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ไม่ได้ แต่เรามีความเชื่อความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง มีแนวคิดก็พลักดัน เราก็ทำตามแนวทางประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า ร่างรัฐธรรมนูญไม่เป็นไปตามที่ฝันไว้ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่เป็น แต่ขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะตัดสินใจว่า อยากทำอะไรให้ประเทศในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ซึ่งถ้าเราทำได้ก็อยากให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า และจะเป็นเช่นนั้นก็ต้องให้ประชาชนมีสิทธิมีเสียงทุกคนมีส่วนร่วม และคิดถึงสวนร่วมเพื่อให้เกิดความก้าวหน้าและพัฒนาเท่าเทียม

ต่อข้อถามว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) บอกว่าการที่พรรคการเมืองออกมาประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ถ้าเกิดอะไรขึ้นพรรคการเมืองต้องรับผิดชอบ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ความรับผิดชอบคือ พรรคการเมืองต้องร่วมมือกันให้ได้ร่างที่ดีกว่า ที่ตนและอีกหลายๆ คน แสดงจุดยืนยังยึดถือตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 57 และตามโรดแมปของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ได้ประกาศไว้ ถ้าเราบอกว่ารัฐธรรมนูญต้องผ่าน จะทำประชามติทำไม ถ้ามาบอกว่าจะต้องผ่าน ต้องใช้ฉบับนี้ ก็ไม่ต้องทำประชามติตั้งแต่ต้น เพราะการทำประชามติคือ การให้ประชาชนพิจารณาตัดสินใจว่าจะเอาสิ่งนี้ หรืออยากได้สิ่งที่ดีกว่า ซึ่งหากประชาชนไม่เอาสิ่งนี้ ทุกคนมีหน้าที่ช่วยกันทำให้ได้สิ่งที่ดีกว่านี้

Advertisement

“ผมไม่ได้คิดว่ามุมมอง เจตนาของท่านไม่ดี แต่มุมมองความเชื่อของท่านในการเดินหน้าบ้านเมือง ต่างจากเจตนาของผม เพราะผมมองว่าสิ่งที่ท่านทำด้วยเจตนาดี แต่จะไม่เป็นอย่างที่ท่านตั้งใจไว้ ทั้งเรื่องการพัฒนาประเทศ คอร์รัปชั่น ความขัดแย้ง ท่านมีความคิดเห็นของท่าน ผมมีความคิดเห็นของผม ไม่มีความจำเป็นต้องตอบโต้ มีแต่เรื่องที่ให้ประชาชนได้พิจารณาเนื้อหาสาระ ทุกคนต้องมีส่วนร่วมมากกว่านี้ เพราะถ้าร่างไม่ผ่าน เท่ากับประชาชนบอกว่ายังไม่ใช่ ไม่ถูกใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ในฐานะที่ต้องรับผิดชอบเดินหน้าตรงนี้ต่อไป และทบทวนว่า จะทำให้เป็นที่ยอมรับและเดินหน้าได้ ผมไม่ได้เรียกร้องว่าต้องเป็นพรรคการเมืองกลุ่มใด แต่ทุกคนต้องช่วยกัน” นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า ถ้ารัฐธรรมนูญผ่านประชามติ พรรคพร้อมจะเดินหน้าหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราต้องเดินตามกติกา เพราะที่ตนแสดงจุดยืนไป ก็ไม่ได้เป็นปัญหา ความห่วงใยที่แสดงออก เราต้องดูว่าจะแก้ไขอย่างไร แต่รัฐธรรมนูญก็ยังแก้ไขได้ยากมาก อย่างไรก็ตาม พรรค ปชป. เป็นพรรคที่มีความหลากหลาย มีประชาธิปไตยสูง ตนรับฟังทุกความเห็น ไม่มีประเด็นอะไรที่จะต้องขัดแย้งกัน ไม่ใช่เรื่องที่จะทะเลาะกับใคร เราต้องช่วยกันคิดว่าทิศทางของกฎหมายสูงสุดของประเทศควรเป็นอย่างไร ดังนั้น ตนจึงไม่มีความกังวลในความเห็นต่างของคนในพรรค พรรคมีความเข้มแข็งพอที่จะจัดการบริหารประเทศได้ แต่เรื่องที่ใหญ่กว่าคือ รัฐธรรมนูญ สมาชิกบางที่คิดต่าง คงต้องคุยและทำความเข้าใจกันเป็นเรื่องปกติธรรมดา ซึ่งแถลงจุดยืนไม่ใช่เรื่องความชอบส่วนตัว แต่ต้องยึดในฐานะหัวหน้าองค์กร ในพรรคการเมืองที่เป็นสถาบัน ต้องยึดตามการดำเนินการของพรรคที่ผ่านมา

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า อย่างไรเราก็ต้องมีพรรคการเมือง นักการเมือง ซึ่งหากคำถามพ่วงประชามติผ่าน วุฒิสภาก็แทบเป็นอีกพรรคการเมืองหนึ่งเหมือนกัน เพราะบทบาทเป็นนักการเมืองชัดๆ ไม่ต่างจากพรรคการเมืองเลย ฉะนั้น เราต้องคิดว่าพรรคการเมือง นักการเมือง มีไว้ทำไม ถ้าเราคิดว่ามีไว้เพื่อเป็นตัวแทนประชาชน ถ้าไม่ดี ประชาชนก็ต้องคัดเลือกให้ดีกว่านี้ แต่เราหนีระบบไปไม่พ้น ถ้าเราปฏิเสธนักการเมือง พรรคการเมืองโดยเมืองสิ้นเชิง ถามว่า เราจะเดินหน้าเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร หรือถ้าเราเชื่อว่าการปกครองไม่ต้องเป็นประชาธิปไตย คงต้องย้อนกลับไปดูบทเรียนทั้งของประเทศไทยและทั่วโลกว่า ถ้าประชาชนขาดการมีส่วนร่วม บ้านเมืองจะเดินไปได้ยาก เรายอมรับเวลาเกิดปัญหาวุ่นวาย อาจต้องมีการเข้ามาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ได้ขัดข้องถ้าคสช.เดินไปข้างหน้าตามโรดแมป แต่เป็นคนละประเด็นกับรัฐธรรมนูญ

Advertisement

เมื่อถามว่า ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญบางคนออกมาประกาศว่าจะไม่ไปใช้สิทธิ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนเข้าใจความรู้สึก เพราะหลายคนรู้สึกว่า กระบวนการไม่เป็นธรรม ด้วยเหตุที่มันผิดปกติ บางคนจึงไม่อยากมีส่วนร่วมด้วย แต่การทำเช่นนั้น ไม่ได้ลดผลที่ตามมา ดังนั้น จึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนไปใช้สิทธิ เพราะผูกพันทุกคน ถ้าผ่านก็ต้องใช้กฎหมายนี้ทุกคน ส่วนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศ เชิญชวนให้เป่านกหวีดออกมาใช้สิทธินั้น ตนยังไม่เห็นว่าจะมีใครออกมาเป่านกหวีด แค่เชิญชวนกันเฉยๆ เพราะคงไม่มีใครทำให้เกิดวุ่นวายไม่เคยเห็น กปปส.คิดจะสร้างความวุ่นวายในช่วงนี้ มีแต่เรียกร้องว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบ แม้จะคิดต่างกันในเรื่องรัฐธรรมนูญ

ต่อข้อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า วันที่ 7 สิงหาคมนี้ จะเลือกอนาคตที่ไม่แน่ชัด หรือเลือกอดีตที่ขมขื่น มองอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อดีตเปลี่ยนไม่ได้ แต่อนาคตเปลี่ยนได้ พล.อ.ประยุทธ์มีโอกาสเปลี่ยนอนาคตได้มากกว่าคนอื่น ตนได้แสดงจุดยืนให้โอกาสท่านได้สร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับประเทศ ซึ่งนายมีชัยพยายามทำ ตนไม่ได้บอกว่านายมีชัยไม่ดี แต่คิดว่ายังทำให้ดีกว่านี้ได้ และ พล.อ.ประยุทธ์ ก็อยู่ในสถานะที่จะทำได้ ทางเลือกอนาคตไม่แน่นอนอยู่แล้ว ที่คนร่างบอกว่า ถ้าใช้รัฐธรรมนูญนี้จะเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ตนมองว่าอาจจะไม่เป็นอย่างที่คนร่างบอกก็ได้ เพราะบทเรียนปี 40 และ 50 ก็มีมาแล้ว อนาคตอย่างไรก็ไม่แน่นอน ตนต้องการเปิดทางให้เราได้อนาคตที่ดีกว่าเท่านั้นเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image