อนาถ ครูถูกปปช.ชี้มูลให้ปลดออก สามีเครียดยิงตัวตาย

อดีตครูที่ถูกปลดออกจากราชการ จากการถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในโครงการปรับปรุงซ่อมแซมระบบไฟฟ้าภายในโรงเรียน จำนวน 17 คน เดือดร้อนหนัก ครูผู้น้อยเล่าทั้งน้ำตาเป็นเพียงผู้น้อย แต่ต้องรับผิดกับปัญหาที่ไม่ได้ก่อ ครอบครัวลำบาก ขาดรายได้ อนาคตดับวูบ วอนช่วย

รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อวันที่ 16 กันยายนนี้ อดีตข้าราชการครูรวม จำนวน 17 คน จากโรงเรียน 8 แห่ง ใน 3 อำเภอของจังหวัดสงขลา รวมตัวกันที่โรงเรียนตะเครียะวิทยาคม อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา เพื่อร่วมกันร้องขอความเป็นธรรม ภายหลังจากถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ในข้อกล่าวหาทุจริต ผิดวินัยร้ายแรง จนต้นสังกัดมีคำสั่งให้ปลดออกจากราชการ เมื่อเดือนมีนาคม 2562 จากปัญหาในโครงการปรับปรุงซ่อมแซมไฟฟ้าในโรงเรียน ที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งได้มีการร้องเรียน หน่วยงานต้นสังกัดคือ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือ สพฐ.ได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงจนเรื่องได้ยุติ ซึ่งทั้งหมดได้ถูกว่ากล่าวตักเตือน เนื่องจากมีข้อบกพร่องในเรื่องเอกสารบ้างแต่ไม่ได้มีการทุจริตเกิดขึ้น งานในโครงการถูกต้องและสามารถใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน แต่เรื่องกลับถูกป.ป.ช.หยิบยกขึ้นมาสอบสวนอีกครั้ง จนมีมติดังกล่าวออกมา ซึ่งทำให้ทั้งหมดถูกปลดออกจากราชการ

โดยจากการตรวจสอบโครงการดังกล่าว ภายในโรงเรียนตะเครียะวิทยาคมและโรงเรียนระโนด ซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณจาก สพฐ.จำนวน 990,000 บาท และ 250,000 บาท ตามลำดับนั้น ปัจจุบันก็ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่าไม่ได้มีการทุจริตในโครงการแต่อย่างใด บรรดาครูที่ถูกคำสั่งให้ปลดออก ต่างยังอยู่ในภาวะที่เศร้าสลดใจ และยืนยันความมั่นใจว่าไม่เคยกระทำการทุจริตใดๆ ไม่เคยได้รู้จักกับผู้รับเหมางานโครงการเพราะอยู่ถึงจังหวัดสระแก้ว อีกทั้งในชีวิตครู มีจุดมุ่งหวังเพียงให้นักเรียนได้มีโอกาส เหมือนกันนักเรียนที่อยู่โรงเรียนในเมือง อีกทั้งโครงการก็มีมูลค่าไม่มาก และไม่คุ้มค่ากับการเอาตำแหน่งหน้าที่ไปแลก

นางสาวรัตนา สำเนาการ อดีตครูโรงเรียนระโนด อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ซึ่งก่อนที่จะถูกปลดออกจากราชการนั้นทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่พัสดุ เมื่อปี 2549 บอกว่า ขณะนั้นเพิ่งย้ายจากจังหวัดนราธิวาส มาช่วยราชการที่โรงเรียนระโนดได้เพียง 1 ปี เท่านั้น เมื่อถูก ป.ป.ช.ชี้มูลจึงมองว่าไม่มีความยุติธรรม เพราะที่โรงเรียน มีการชี้มูลครูไป 6 คนแต่ทั้งหมดนั้น มีเพียงตนคนเดียวที่ถูกคำสั่งให้ปลดออกจากราชการ ทั้งที่ตนเป็นเพียงครูผู้น้อยเท่านั้น เมื่อถูกให้ออกจากราชการ ทำให้ครอบครัวเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะรายได้หลักมาจากอาชีพครู จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ เพราะเกรงส่งผลกระทบต่อจิตใจ เพราะลูกถูกปลดออกจากราชการ

สิ่งที่ต้องการคืออยากร้องขอความเป็นธรรม เพราะไม่มีโอกาส แม้แต่จะชี้แจง ไม่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตนเป็นครู จะไปรู้จักผู้รับเหมาได้อย่างไร โดยข้อกล่าวหาที่ป.ป.ช.แจ้ง คือ ไม่ปิดประกาศ เอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้รับเหมา ซึ่งจริงๆ อาจจะบกพร่องบ้าง แต่ทั้งหมดก็ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา บางเรื่องโดยความสัตย์จริงก็ไม่ทราบ แต่ต้องรับกรรมที่ไม่ได้ก่อ ไม่เคยทุจริต และไม่เคยมีแม้แต่ความคิดที่จะทุจริตแต่อย่างใด

Advertisement

ในขณะที่นางประไพ เรืองฤทธิ์ ข้าราชการครูที่เกษียณอายุราชการโรงเรียนตะเครียะวิทยาคม อ.ระโนด แต่ก็ถูกชี้มูลเช่นเดียวกัน และมีคำสั่งให้ปลดออกจากราชการ เรียกคืนเงินบำเหน็จบำนาญ จากกรณีเดียวกัน โดยนางประไพบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นความอัปยศต่ออาชีพครูอย่างมาก ตนเองรับราชการครู ที่โรงเรียนแห่งนี้มานานกว่า 30 ปี ไม่เคยคิดที่จะย้ายไปไหน ก่อนปี 2549 โรงเรียนนี้ไม่มีระบบไฟฟ้าของตัวเอง ต้องเช่าหม้อแปลง เมื่อมีโครงการนี้มาจาก สพฐ.ผอ.โรงเรียนตะเครียะวิทยา ในขณะนั้น จึงได้มอบหมายให้ตนกับเพื่อนครูดำเนินการ ซึ่งระบบไฟฟ้าก็สามารถใช้ได้มาจนถึงปัจจุบัน เมื่อปัญหาเกิดขึ้น จนกระทั่ง มีหนังสือให้ปลดตนเองออกจากราชการ เมื่อเดือนมีนาคม 2562 ทำให้สามีของตนเอง รับไม่ได้กับคำสั่งดังกล่าว เกิดความเครียดจนถึงขั้นยิงตัวตาย เพราะสามีเห็นมาตลอดว่าตนเองนั้นทุ่มให้กับโรงเรียน ทุกๆ อย่าง มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย สามารถถามได้ว่า ครูป้าไพ เป็นครูยังไง ปฏิบัติตัวเช่นไร ที่ออกมาต่อสู้ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อน้องๆ ครู ที่ยังมีอนาคต และต้องถูกให้ปลดออก โดยไม่ได้มีความผิด ไม่ได้ทุจริตใดๆ เลย เพราะตนเองไม่ได้มีความหวังอะไรแล้ว คนที่รักที่สุดก็ต้องมาตายจากไป ความเสียใจ มันมีมากจนไม่รู้จะเสียใจอย่างไรแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image