ถึงคิวถล่มงบกองทัพ ส.ส.ก้าวไกล ซัด เลื่อนซื้อเรือดำน้ำ แต่อาวุธอื่นยังซื้อเพียบ

ถึงคิวถล่มงบกองทัพ ก้าวไกล ซัด เลื่อนซื้อเรือดำน้ำ แต่อาวุธอื่นยังซื้อเพียบ

วันนี้ (16 ก.ย.) เวลา 21.00 น. การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 เข้าสู่การพิจารณาในมาตรา 8 งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงกลาโหม และหน่วยงานในกำกับ วงเงิน 1.15 แสนล้านบาท แต่กมธ.เสียงข้างมากปรับลดลง 7.7 พันล้านบาท เหลือ 1.07 แสนล้านบาท โดยนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า แม้กระทรวงกลาโหม จะถูกตัดงบไป 7.7 พันล้านบาท แต่เป็นการตัดจริงเพียง 1.2 พันล้านบาทเท่านั้น อีก 6.5 พันล้านบาท เป็นการเลื่อนจัดซื้อไปปีหน้า และแม้กองทัพเรือจะตัดงบการซื้อเรือดำน้ำไปแล้ว แต่ยังมีอีกหลายรายการที่ไม่มีการยกเลิกจัดซื้อ โดยที่ไม่มีความจำเป็น เช่น การไม่ตัดการจัดซื้อรถยานเกราะสไตรเกอร์ของกองทัพบก ที่เป็นงบผูกพัน ตั้งแต่ปี2562-2566 จำนวน 130 คัน วงเงิน 9.1 พัน ล้านบาท ขณะเดียวกันยังมีข้อน่าสงสัยการจัดซื้อสะพานยุทธวิธี เพื่อไว้ช่วยเหลือประชาชนเวลาเกิดสาธารณภัย 2ชุด ราคา320 ล้านบาท ซึ่งซ้ำซ้อนกับสะพานถอดประกอบที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)จัดซื้อ 10 ชุด ราคา 248.3 ล้านบาท อยากถามว่า หน้าที่ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเป็นของกองทัพบกหรือปภ.

นายพิจารณ์ กล่าวว่า สิ่งที่อยากให้สำนักงบประมาณเข้ามาตรวจสอบคือ การจัดซื้อยานเกราะโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกของกองทัพเรือที่ใช้วิธีการโอนย้ายงบประมาณนั้น มีข้อผิดสังเกตคือ มีการประกาศแผนการจัดซื้อเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2563 และประกาศราคากลางวันที่ 25 มิถุนายน 2563 และยื่นซองและเปิดซองเสนอราคาวันที่ 10 กรกฎาคม ก่อนที่วันที่ 11สิงหาคม สำนักงบประมาณจะอนุมัติให้โอนย้ายงบประมาณดังกล่าว และ วันที่ 8 กันยายน ประกาศผู้ชนะการเสนอราคา แสดงให้เห็นว่า มีการจัดซื้อล่วงหน้าไปก่อนตั้งแต่วันที่ 11มิถุนายน 2563 ทั้งที่สำนักงบฯยังไม่ได้โอนงบประมาณมาให้ กองทัพเรือดำเนินการผิดระเบียบหรือไม่ที่ให้จัดซื้อจัดจ้าง เปิดซองประกวดราคา โดยที่ยังไม่ได้รับงบประมาณ ไม่รู้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รู้เห็นเป็นใจหรือไม่

ต่อมา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ตนเสนอปรับลดงบกระทรวงกลาโหม เนื่องจากมีความไม่โปร่งใส เกิดปัญหาการจัดซื้อครุภัณฑ์ในราคาที่แพงผิดปกติ ยกตัวอย่างการจัดซื้อครุภัณฑ์ในราคาแพง เช่น กล้องสำรวจแบบวัดระยะและมุม ตราอักษร TOPCON รุ่น OS-101 สำรวจราคาตามท้องตลาดทั่วไปถูกกว่าราคาที่กองทัพซื้อมาถึง 26.85 เท่า รถยกไฮดรอลิค แฮนด์ สไตรเกอร์ รุ่น ADJ HS 1.5 TX3m ราคาตามท้องตลาดถูกกว่าที่กองทัพเรือจัดซื้อมา 57.29 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ยังเคยให้คำสัญญาว่า จะปฏิรูปกองทัพ ที่จะทำให้กิจการภายในของกองทัพมีความโปร่งใส แต่ปรากฎว่า ผ่านมาร้อยกว่าวัน กองทัพก็ยังเป็นแดนสนธยาที่ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกที่มีผู้มีอำนาจไม่กี่คนที่จะเข้าไปข้างในได้ คนที่อยู่ข้างนอกไม่มีทางรู้เลยว่า คนที่เข้าไปตอนกลับออกมาหยิบอะไรติดไม้ติดมือมาบ้าง และไม่รู้ว่า ยุทโธปกรณ์อาวุธเหล่านั้น จะเอามาปกป้องชาติหรือฟาดฟันคนไทยด้วยกันเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image