สธ.ตั้งวอร์รูมด้านการแพทย์ 4 จุดหน้าธรรมศาสตร์ เฝ้าระวังเหตุฉุกเฉินจากการชุมนุม

สธ.ตั้งวอร์รูมด้านการแพทย์ เฝ้าระวังเหตุฉุกเฉินจากการชุมนุม

เมื่อวันที่ 18 กันยายน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต ในฐานประธานศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีภาวะฉุกเฉิน เปิดเผยว่า เดิมกระทรวงสาธารณสุขมีศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์ และสาธารณสุขกรณีภาวะฉุกเฉิน ซึ่งเป็นระบบโครงสร้างที่เตรียมเอาไว้นานแล้วเพื่อตอบโต้กับสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติ โรคระบาด หรือเหตุฉุกเฉินต่างๆ ก็สามารถเปิดปฏิบัติรองรับต่อสถานการณ์นั้นๆ ได้เลย ซึ่งการชุมนุม 19-20 ก.ย. ก็มีการเปิดศูนย์นี้อีกครั้ง โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข มีความเป็นห่วงใน 2 เรื่อง คือ 1. การแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) 2. ดูแลความเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว ที่อาจจะมีการกำเริบต่างๆ 3. เหตุอื่นๆ ที่ไม่คาดฝัน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเตรียมพร้อมรองรับเอาไว้ทั้ง 3 รูปแบบ

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นเรื่องการคัดกรองโรคโควิด-19 นั้น อยากขอความร่วมมือผู้ชุมนุมคัดกรอง วัดไข้ และโรคประจำตัว หากใครมีโรคประจำตัวอะไรก็ขอให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อเตรียมแผนรับมือได้ โดยจะมีการตั้งเต้นท์ พยาบาล 4 จุด ตรงหน้าประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ขอยืนยันว่าการคัดกรองเป็นเรื่องของสุขภาพเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของความมั่นคง ขอให้ประชาชนสบายใจ มีการแจกเจลแอลกอฮอล์ แจกหน้ากาก นอกจากนี้ ยังมีการจัดทีมบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งระดับพื้นฐาน และระดับสูง ดูแลระหว่างการชุมนุม โดยอยู่ห่างจากผู้ชุมรุมระยะ 100 เมตร หากกรณีมีการเจ็บป่วยรุนแรง เช่น โรคประจำตัวกำเริบ การเจ็บป่วยฉุกเฉิน ก็มีการวางระบบส่งต่อไปยังรพ.ที่ใกล้ที่สุด เช่น รพ.วชิระ รพ.ราชวิถี รพ.รามาธิบดี เป็นต้น โดยมีกทม.เป็นผู้สั่งการใหญ่

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า สำหรับการชุมนุมในวันที่ 20 ก.ย. ซึ่งจะมีการเคลื่อนขบวนนั้น ก็จะมีรถพยาบาลและหน่วยฉุกเฉินติดตามรายทาง กรณีเกิดเหตุเจ็บป่วย ไม่คาดฝันก็จะมีระบบเข้าไปดูแล โดยมีศูนย์เอราวัณ 1669 เข้าไปดูแล วางเรื่อง ของแผนการเดินทาง การส่งต่อต่างๆ ส่วนกำลังบุคลากรทางการแพทย์ที่จะเข้าไปดูแลนั้น จะมีการหารือกันในวันที่ 19 ก.ย. นี้ ในเวลา 08.00 น. อย่างไรก็ตาม หวังว่าการชุมนุมจะสงบเรียบร้อย ขอยืนยันว่าการที่เราเตรียมแผนการรับมือเอาไว้หลายระดับ เป็นรูปแบบปกติอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่ามีการประเมินสัญญาณอะไรเป็นพิเศษ แต่ที่เราทำคือการเซฟไว้ก่อน เป็นมาตรการปกติของศูนย์ปฏิบัติการฯ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image