สมชัย แนะ ผู้นำม็อบ ทบทวนเนื้อหาปราศรัย ชี้ ไม่ต้องรุนแรง ก้าวร้าว เน้นมีเหตุผล เชื่อ ผลของการชุมนุมช่วยทำผู้มีอำนาจตระหนักในความคิด ปชช.-มีผลต่อ ส.ว.ลงมติแก้ไข รธน.
เมื่อวันที่ 20 กันยายน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รองประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาหลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กแสดงความเห็นต่อการชุมนุม ช่วงเช้าวันที่ 20 กันยายน ว่า ผู้ชุมนุมในช่วงเช้าน่าจะอยู่ที่ไม่เกินหมื่นคน เป็นกลุ่มที่ยืนหยัดค้างคืน ถือเป็นจำนวนไม่น้อย แต่ไม่สามารถเป็นภาพที่สวยงามมีพลังแบบ 14 ตุลา 2516 เพราะเงื่อนไขจำกัดหลายประการ อีกทั้งการประกาศบนเวทีของผู้นำการชุมนุมที่เปลี่ยนเส้นทางจากทำเนียบรัฐบาลไปยังที่ใหม่ที่ไม่ได้ชี้แจงชัดเจน เป็นนาทีที่สุ่มเสี่ยง และน่าเป็นห่วงที่สุด
นายสมชัยระบุต่อว่า จังหวะของการเจรจาเพื่อขอให้ตัวแทนเข้าไปมอบหนังสือให้แก่ประธานองคมนตรี ต้องชมกลุ่มผู้ชุมนุมที่รักษาความสงบของสถานการณ์ได้ดี ผู้คลี่คลายสถานการณ์การชุมนุมที่ต้องชื่นชม 2 คน คือ น้องรุ้ง น.ศ.ธรรมศาสตร์ ที่โดดเด่น กล้าหาญ กล้าตัดสินใจอย่างฉลาด เพื่อให้สถานการณ์ยุติ และ ผบ.ตำรวจนครบาล ที่รับเป็นผู้รับหนังสือ อย่างไรก็ตาม การนำการปราศรัยของผู้นำการชุมนุมควรต้องทบทวนทั้งเนื้อหาและท่าทีที่รุนแรง ก้าวร้าว และขาดการเคารพถึงศักดิ์ศรีบุคคลอื่น ควรนำเสนอด้วยเหตุผล ด้วยท่าทีที่สุภาพ ไม่มีความจำเป็นต้องก้าวร้าว ทั้งนี้ ผลของการชุมนุมอย่างน้อยก็น่าจะทำให้ผู้มีอำนาจตระหนักในความคิดของประชาชน และน่าจะมีผลต่อการลงมติของวุฒิสภาในเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 23-24 กันยายนนี้ แต่หากยังไม่ตระหนัก ฝ่ายที่มีอำนาจอาจเสียหายมากกว่าเดิม
