บทนำ : การชุมนุม19ก.ย.
การชุมนุมของเยาวชน นิสิตนักศึกษา ในชื่อ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” เริ่มต้นเมื่อวันที่ 19 ก.ย. และยุติในเช้าวันที่ 20 ก.ย. ด้วยการทำพิธีปักหมุดแสดงสัญลักษณ์ประชาธิปไตย และถวายฎีกาผ่านผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หลังการชุมนุม ตำรวจระบุว่า การชุมนุมผ่านไปอย่างเรียบร้อย อาจจะมีการพิจารณาความผิดแกนนำ และผู้ปราศรัยในเรื่องการนำผู้ชุมนุมเข้าไปในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และการเข้าไปในสนามหลวง โดยไม่ได้ยื่นขออนุญาตล่วงหน้าตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และเนื้อหาการปราศรัยบนเวทีบางช่วงบางตอน
ก่อนหน้าการชุมนุม ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไม่ให้ชุมนุมในมหาวิทยาลัย ด้วยเหตุผลว่า ไม่ได้ขออนุญาตตามระเบียบ ผู้นำรัฐบาลแถลงห่วงว่าจะทำให้เกิดการระบาดของโควิด-19 อีกครั้ง และเสนอว่า ควรเอาชนะโควิดให้ได้ก่อน ค่อยมาแก้ปัญหาการเมือง บางกลุ่มระบุว่า การชุมนุมของนิสิตนักศึกษากลุ่มนี้ จะนำไปสู่ความรุนแรง นอกจากนี้ ยังมีผู้ออกมาแสดงความกังวลต่างๆ ทั้งที่เป็นกลุ่มที่สนับสนุนการชุมนุมชัตดาวน์ เมื่อปี 2556-2557 และประชาชนทั่วไปที่ผ่านการชุมนุมทางการเมืองจากปี 2552-2553 และ 2556-2557 และได้พบเห็นความรุนแรง ขณะเดียวกัน มีคณาจารย์และผู้รักความเป็นธรรมจำนวนมาก ออกมาเตือนผู้บริหารมหาวิทยาลัยว่ากำลังตัดสินใจผิด ผลักดันให้นิสิตนักศึกษาที่ต้องการแสดงออกทางการเมือง ต้องไปรับความสุ่มเสี่ยงจากพื้นที่นอกมหาวิทยาลัยที่ควรเป็นพื้นที่แห่งเสรีภาพ
การชุมนุมทางการเมือง เป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน สามารถดำเนินการอย่างสันติ และยุติด้วยการเสนอข้อเรียกร้อง โดยรัฐคุ้มครองตามแบบสากล แต่ที่ผ่านมา มีการฉวยโอกาสของกลุ่มการเมือง กลุ่มอำนาจ ใช้การชุมนุม เพื่อบรรลุเป้าหมายที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือบางครั้งรัฐใช้ความรุนแรง สร้างเงื่อนไขเข้าปราบปราม ใช้อาวุธสงครามเข่นฆ่า ทำให้การชุมนุมกลายเป็นเรื่องอันตราย และนำไปสร้างวาทกรรมว่า การเมืองต้องอยู่ในสภา จะไปอยู่ในถนนไม่ได้ การเมืองที่ดี ต้องนิ่งเงียบและเชื่อฟัง ทำลายความชอบธรรมของการชุมนุม บิดเบือนให้กลายเป็นการรวมตัวเพื่อสร้างความปั่นป่วน หลังจากนี้ เชื่อว่าจะมีการชุมนุมทางการเมืองเกิดขึ้นอีก ทุกฝ่ายต้องช่วยกันสร้างมาตรฐาน ทำให้การชุมนุมเป็นเรื่องปกติ และเป็นช่องทางที่ประชาชนสามารถใช้สะท้อนความคิดความเห็นได้อย่างสันติ
