‘กกต.’ เอ็มโอยู ‘พช.’ สร้างความรู้-เข้าใจระบอบ ปชต.ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง

เมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่ห้องประชุม 201 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีการจัดพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างสำนักงาน กกต.และกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) โดยมีนายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ และนายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กรรมการการเลือกตั้ง ร่วมเป็นสักขีพยาน การลงนาม โดย พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้แทนในการลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแก่ประชาชน การลงนามในครั้งนี้จะเป็นการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครในระดับหมู่บ้าน ทำงานร่วมกับคณะกรรมการศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย จะเป็นการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครในระดับหมู่บ้าน เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมระดับตำบล สร้างการตระหนักรู้และกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้กระบวนการมีส่วนร่วมด้วยการมีวิถีประชาธิปไตย มีวัฒนธรรมการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับตนเองและบริบทของพื้นที่ รวมทั้งปลุกจิตสำนึกของชุมชนให้เป็นหมู่บ้านรณรงค์ไม่ขายเสียง และสร้างเครือข่ายให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับการไม่ซื้อสิทธิขายเสียง ภายใต้แนวทางสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่งผลให้เกิดการเลือกตั้งคุณภาพโดยพลเมืองคุณภาพ

นายสุทธิพงษ์กล่าวว่า พช. มีภารกิจทำงานร่วมกับประชาชนในพื้นที่อย่างแนบแน่นใกล้ชิด สามารถพูดคุยกับชาวบ้านได้รู้เรื่องจึงจะใช้ข้อดีในส่วนนี้สร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชน โดยที่ผ่านมาเรามีหน่วยงานที่ใกล้ชิดกับประชาชน เช่น กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี อาสาพัฒนาชุมชน เราจึงจะใช้จุดแข็งที่สามารถคุยภาษาเดียวกับชาวบ้าน สื่อสารตรงไปยังประชาชน นำไปสู่การปฏิบัติเพื่อประเทศชาติ

ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า การลงนามจะนำไปสู่การร่วมมือกันในการเผยแพร่หลักสูตรพลเมืองคุณภาพ ไปยังตำบลหมู่บ้าน ซึ่งกรมพัฒนาชุมชนจะมีพัฒนากร อยู่ในพื้นที่ ก็จะส่งบุคลากรมาอบรม เพื่อไปเป็นวิทยากรที่จะเผยแพร่หลักสูตรพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย นำสู่การสร้างหมู่บ้านพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย เผยแพร่วิถีชีวิตของคนไทยให้สอดรับกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย คือ มีจิตสาธารณะ มีความรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวม มีการคิดวิเคราะห์ด้วยตัวเองมาใช้สิทธิเลือกตั้งโดยไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ในการเลือกคนดีเข้าสู่สภา เคารพกฎระเบียบ เคารพสิทธิ์ผู้อื่นสำคัญกว่าการรู้จักแต่สิทธิ์ของตัวเอง ไม่ล่วงละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น เชื่อว่าจะได้รับผลดีกลับมา หลังจากทีก่อนหน้าที่ กกต.ได้ร่วมสร้างเครือข่ายร่วมกับหน่วยงานอื่น เช่น กรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กรมกิจการผู้สูงอายุ และ กศน. ที่แต่หละหน่วยงานมีบุคคลากรอยู่ในพื้นที่ ซึ่งพร้อมที่จะเผยแพร่ออกไปให้มากที่สุด ขณะที่ กกต.เองได้มีการสร้างวิทยากรหลักโดยเจ้าหน้าที่ กกต.พร้อมคู่มือ สามารถที่จะอบรมวิทยาของหน่วยอื่นๆ ได้อย่างมีคุณภาพ ล่าสุดเรายังได้เข้าให้ความรู้ผู้ต้องขังในเรือนจำด้วย เพราะต้องการให้ค่านิยม ทัศนคติของคนในสังคมเปลี่ยนไปในรูปแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image