‘บิ๊กตู่’ห่วงคิดนอกกรอบมากเกิน ทำบ้านเมืองวุ่นวาย แนะอาเซียนใช้อังกฤษเป็นภาษากลาง

‘บิ๊กตู่’ฝากบอกประเทศอาเซียน ไม่ต้องเตือนระวังไทยช่วงประชามติ บอกทหารดูอยู่ ฝากเยาวชนอย่าคิดนอกกรอบเกินไป เปรียบคนสมัยก่อนรบกันด้วยดาบ สมัยนี้รบกันด้วยปาก สอนเด็กต้องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมก่อนประโยชน์ส่วนตัว

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 กรกฎาคม ที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดงานฉลองวันอาเซียน (ASEAN Day 2016) นายกฯกล่าวช่วงหนึ่งว่า เทคโนโลยีและเศรษฐกิจดิจิตอลที่รัฐบาลกำลังทำนั้นคือหัวใจของทุกประเทศอาเซียน ซึ่งสิ่งสำคัญในแต่ละประเทศคือเราเป็นประเทศที่มีสถาปัตย์ชีวิตของเรา ประเทศไทยเราสามารถกินข้าวกินก๋วยเตี๋ยวได้ถึงเช้า ที่ไหนมีบ้าง แต่ขอให้ถูกกฎหมายแล้วกัน ส่วนประเทศสมาชิกทั้งหมดก็เป็นเพื่อนทั้งนั้น แล้วไม่ต้องไปเตือนใครให้ระวังประเทศไทยช่วงประชามติ ไม่ต้องกลัว ทหารเขาดูแลอยู่ แต่ถ้าจะมีก็คนไม่ดี คนชั่ว คนบ่ดี เดี๋ยวจะส่งไปให้เพื่อนลาวดูแลหน่อย 

นายกฯกล่าวด้วยว่า บางครั้งสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้นต้อง เพราะคนเห็นต่างคือเห็นต่าง แต่การเห็นต่าง รวมถึงสิทธิมนุษยชน ต้องไม่ผิดกฎหมาย แค่นี้เองแยกให้ออก แต่ถ้ากฎหมายไปละเมิดสิทธิเขา ตรงนี้ถึงจะเรียกว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน เราอย่าคิดอะไรนอกกรอบจนมากเกินไป ต้องเอากรอบมาเทียบหากอยากทำอะไรต้องดูกฎหมาย ถึงจะไม่ผิด บ้านเมืองไม่วุ่นวาย

นายกฯกล่าวว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมการเรียนภาษาอาเซียน โดยมีภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง และประเทศอาเซียนต้องสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกันลดความหวาดระแวงอะไรที่เรายังไม่เรียบร้อยดูแลไม่ดีก็ต้องขอโทษเพื่อนด้วย เช่นเดียวกับที่ขอให้เพื่อนดูแลคนไทยเป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลบนความแตกต่าง เพราะเราต้องอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

นายกฯกล่าวว่า อยากให้นักเรียนพัฒนาตนเอง ทั้งด้านการศึกษาและคุณธรรม เห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของอาเซียน แล้ววันหน้าอยากให้มีกิจกรรมแข่งขันเขียนเรียงความประวัติศาสตร์ของประเทศตนเอง เพราะตนได้ข้อมูลมาว่าเด็กที่ไปเรียนต่างประเทศเขียนประวัติศาสตร์ของไทยไม่ได้ การเรียนประวัติศาสตร์จะทำให้เรารู้ว่าจะรักประเทศไทยอย่างไร ไม่ใช่เรียนแต่ในยูทูบ ต้องให้ครูกับนักเรียนมาถกแถลงกันเพื่อสร้างบรรยากาศที่เกิดขึ้นจริง นึกออกหรือไม่ว่าสมัยก่อนเขารักษาแผ่นดินกันอย่างไร เขารบกันด้วยดาบด้วยหอก รบกันทั้งวันทั้งเช้าและกลางคืน ข้าวก็ไม่ได้กิน มีการสักยันต์กันเต็มตัว แต่วันนี้ทะเลาะกันด้วยปากเสียส่วนใหญ่ แต่กลับเจ็บกว่าฟันกันด้วยมีดอีกเพราะเราไม่สามารถที่จะปกป้องตัวเองได้

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอให้ทุกคนพัฒนาตัวเอง ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนแปลงประเทศได้ ถ้าหากไม่มีการปฏิรูป การปฏิรูปจะต้องเกิดมาโดยตลอดตามห้วงเวลาตามลำดับ หากเราไม่มีกลไก ระยะเวลาในกานพัฒนาเราจะไม่รู้ว่าถึงเวลาหรือยัง แต่ถ้าถึงเวลาอีกทีมันก็ระเบิดออกมาแล้ว อย่างนี้มันไม่ได้ แล้วใครจะต้องมาแก้อีกมันไม่มีแล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้จะต้องเลิกให้ได้มีเวลาเท่านี้แค่นั้น ที่อยากให้ทุกคนพิจารณาด้วยสติปัญญาของทุกคน ตนไม่อาจจะพูดอะไรได้มากกว่านี้ ขอให้ทุกคนฟังและคิด ส่วนจะเชื่อหรือไม่ให้ไปคิดเอาเอง อยากให้ทุกคนเรียนรู้เราจะต้องร่วมกัน เราจะต้องมีคนนำพา หากนำพาในสิ่งที่ถูกและคิดว่าถูกก็เดินตามไป แต่ถ้านำไม่ถูกก็อย่าไปเดินแค่นั้นเอง ดังนั้นเราต้องรู้จักการเปรียบเทียบ

“ดังนั้น ต้องรู้จักการเปรียบเทียบวิธีการ อย่างทหารเขาเรียกว่า หนทางปฏิบัติที่ดีกว่าดีที่สุด มีสามเส้นทางตายสองเส้น อีกเส้นตายน้อยก็ไปเส้นตายน้อย เขาเรียกหนทางปฏิบัติส่งเสริมยุทธศาสตร์ในการตัดสินใจในการปฏิบัติทางทหาร ในการเข้าตีหรือต่างๆ ต้องขจัดข้าศึกที่อยู่ข้างทางมีกองระวังหน้า ระวังหลัง ระวังปีกกองหนุน ฟื้นฟู วันนี้เราต้องเป็นอย่างนั้น เพราะเรากำลังจะปฏิรูป พวกเราทุกคนต้องเป็นกองหน้า กองหลัง กองหนุน ของผมไปด้วย” นายกฯกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image