09.00 INDEX “คำสารภาพ” จาก ชวน หลีกภัย วาทกรรม “แม้แต่ผมยังถูกหลอก”
คำพูดในที่ประชุมรัฐสภาก่อนปิดสมัยประชุมจาก นายชวน หลีกภัยที่ว่า “แม้แต่ผมยังถูกหลอก” มีความหมายเป็นอย่างสูงยิ่ง
เนื่องจากเป็นการพูดในสถานะแห่ง ส.ส.คนหนึ่งซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น “ประธานรัฐสภา”
เหมือนกับเป็นการสื่อไปยังสมาชิกแห่งรัฐสภา
แต่เนื่องจากการประชุมรัฐสภามิได้เป็นการประชุมลับ หากเป็น การประชุมอย่างเปิดเผย ทั้งยังมีการถ่ายทอดผ่านทั้งโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียงของรัฐสภา
จึงเท่ากับเป็นการสื่อในลักษณะบอกกล่าวไปยัง “ประชาชน” ซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริง
กระบวนการสับขาหลอกอันเริ่มมาจากพรรคพลังประชารัฐจึงสะท้อนความสัมพันธ์อันสลับซับซ้อนในทางการเมืองที่มิได้มีต่อกับ 250 ส.ว.เท่านั้นหากแต่ยังมีพรรคร่วมรัฐบาลอีกด้วย
ปฏิบัติการ”ซื้อเวลา”ของพรรคพลังประชารัฐกับ 250 ส.ว.ในวันที่ 24 กันยายนจึงเป็นจุดเปลี่ยนอย่างสำคัญในทางการเมือง
ความหมายจากคำพูดอันเหมือนกับเป็นบทสรุปของ นายชวน หลีกภัย ที่ว่า “ผมยังถูกหลอกเลย” จึงมิได้เป็นการปลอบใจเพื่อนๆสมาชิกแห่งรัฐสภา
หากแต่ยังเท่ากับเป็นการประจานให้เห็นตัวตนอันแท้จริงของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งมี 250 ส.ว.ที่ลงนามแต่งตั้งมากับมือประสานเข้ากับ 100 กว่า ส.ส.ในสังกัดพรรคพลังประชารัฐเป็นฐานกำลัง
การหลอกของพรรคพลังประชารัฐจึงมิได้เป็นการหลอกต่อพรรคร่วมรัฐบาลอันเป็นพันธมิตรของตนเท่านั้น หากที่สำคัญเป็นอย่างมากยังเท่ากับเป็นการหลอกแม้กระทั่งกับตนเองอีกด้วย
เนื่องจากร่างญัตติที่เสนอแก้ไขรัฐบาลมิได้มาจากฝ่ายค้าน
หากแต่ในความเป็นจริงเป็นญัตติอันเป็นของรัฐบาลที่พรรคพลังประชารัฐเป็นผู้นำเสนอด้วยตนเอง
บทบาทของพรรคพลังประชารัฐ บทบาทของ 250 ส.ว.จึงเป็นการเล่นกระบวนท่าที่พร้อมจะ “หลอก” แม้กระทั่งต่อตนเอง และรวมไปถึง พันธมิตรในแนวร่วมอีกด้วย
ความเจ็บปวดของ นายชวน หลีกภัย จึงลึกซึ้งอย่างถึงที่สุด
คำถามอยู่ที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา รู้สึกอย่างไรกับท่าทีนี้ของพรรคพลังประชารัฐ
การหลอกลวงครั้งนี้จึงเป็นการหลอกลวงครั้งยิ่งใหญ่