บิ๊กตู่สยบข่าวลือดึง พท.ร่วมรัฐบาล ลั่นไม่มีรัฐบาลแห่งชาติ ย้ำไม่มีถอดใจลาเก้าอี้นายกฯ แย้มสัปดาห์หน้ารู้ตัวขุนคลังคนใหม่ ปรับแค่ 1 เก้าอี้
เมื่อวันที่ 29 กันยายน รัฐบาลแห่งชาติ กลับมาเป็นกระแสอีกครั้งว่าจะมีพรรคการเมืองต่างขั้วกับรัฐบาลสลับขั้วมาร่วมรัฐบาลหรือไม่ โดยเฉพาะ พรรคเพื่อไทย ที่อยู่ระหว่างการปรับรื้อพรรคใหม่ และวันที่ 1 ตุลาคม จะมีการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 28 กันยายน ถึงกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทย (พท.) จะเข้ามาร่วมงานกับรัฐบาลหลังมีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค ว่า ผมว่าไปเขียนกันเอาเองมั้ง ผมยังไม่เห็นเขาทำอะไรเลย ก็เป็นเรื่องของพรรค พท. ผมนึกอยู่แล้วว่าสื่อจะต้องมาถามผม สิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ที่มีการปรับเปลี่ยน กก.บห.พรรค ถือเป็นเรื่องปกติ ยืนยันผมไม่เคยคุยเรื่องเหล่านี้กับใครทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นอย่าไปตั้งประเด็นกันขึ้นมา บางครั้งผมเองก็อึดอัดใจเหมือนกัน บางทีไปตั้งโน่นตั้งนี่ เขียนกันออกมา แต่มันไม่ใช่ผมนี่ ถ้าพูดอะไรก็เป็นไปตามที่พูดนี่แหละ เพราะผมคือผม เพราะฉะนั้นการจะปรับปรุงพัฒนาถ้าเป็นไปในทางที่ดีกับประเทศชาติก็ทำไปเถอะ ไม่ได้ว่าอะไรท่าน ส่วนที่จะร่วมหรือไม่ร่วมเป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากันวันข้างหน้า เพราะวันนี้ก็ยังเป็นรัฐบาลนี้อยู่ ก็เป็นพรรคการเมืองกันอยู่แบบนี้ จะเปลี่ยน กก.บห.พรรคอย่างไรก็ตาม ก็เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคซึ่งทุกพรรคก็มีการปรับมาโดยตลอด
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีกระแสข่าวลือว่าถอดใจและเตรียมลาออกจากเก้าอี้นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้าเพื่อประเทศชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ประชาชน นายกฯไม่เคยถอดใจในเรื่องเหล่านี้ เพราะต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข และมีการพัฒนาไปตามขั้นตอน ตามกฎหมายที่มีอยู่ เพราะฉะนั้นขอยืนยันว่าไม่มีถอดใจอยู่แล้ว ส่วนที่มีข่าวลือในช่วงนี้ก็มันเป็นข่าวลือ แต่ยืนยันว่าไม่มี
ไม่ใช่ ‘ประสงค์-อาคม-ไกรฤทธิ์’
พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการทาบทามบุคคลมาเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แทนนายปรีดี ดาวฉาย ที่ลาออกว่า สัปดาห์หน้าจะรู้ว่าเป็นใคร ทุกคนรู้จักกันทั้งหมด จำเป็นที่จะต้องคัดเลือกคนที่เหมาะสม รู้งานเศรษฐกิจ รู้งานการทำงานรัฐบาล และใจถึง เข้มแข็ง เดี๋ยวก็คอยดูแล้วกัน อยากได้ใครล่ะ ผู้สื่อข่าวถามว่ารายชื่อที่ออกมาขณะนี้ ทั้งนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ อดีต รมว.คมนาคม และนายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ประธานกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ตรงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนถามว่า 3-4 คนนั้นยังไม่ตรง ไม่มี เมื่อถามย้ำว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ไม่มีใน 3 คนนี้ใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่มีเลย
เมื่อถามว่ามีชื่อนายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ประธานกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่มี ไม่เห็นมีใครสมัครใจเลย ก็ขอไปเยอะ
ชี้หลายคนไม่พร้อม-ปรับเก้าอี้เดียว
“เห็นใจรัฐบาลบ้าง ผมเองต้องพูดคุยกับเขาว่าเขาพร้อมไหม ส่วนใหญ่ครอบครัวก็เป็นห่วงเป็นใยกัน บางคนพร้อมมาช่วยงาน แต่ติดที่ครอบครัวของเขา แต่นี่เป็นปัญหาของประเทศ บางทีก็เลือกคนไม่ได้มากนัก แต่ก็ต้องเลือกคนให้ได้ดีที่สุด ถ้าเลือกไม่ได้ก็ต้องทำงานร่วมกันให้ได้ นั่นคือแนวทางของผม” นายกฯกล่าว
เมื่อถามว่าเป็นการปรับ ครม.เพียงตำแหน่งเดียวใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตำแหน่งเดียว จะให้ปรับกี่ตำแหน่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าเผื่อจะมีการสลับตำแหน่งกัน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มีสลับ ยังอยู่กันได้ไม่มีปัญหาอะไร ประชุม ครม.ทุกพรรคก็มาร่วมกันทำงาน ไม่มีปัญหาอะไร มันอยู่ที่นายกฯจะประสานและบูรณาการกันได้อย่างไร ขอร้องกันว่าทำเพื่อประเทศชาติในช่วงนี้ เมื่อถามย้ำว่านายอาคมใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่ใช่ ที่พูดมาไม่ใช่ทั้งนั้น
‘บิ๊กป้อม-แฮงค์’ ปัดรบ.แห่งชาติ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเพียงสั้นๆ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะมาร่วมทำงานการเมืองกับรัฐบาลโดยตั้งเป็นรัฐบาลแห่งชาติว่า ไม่มี้ โดยที่ พล.อ.ประวิตรทั้งเน้นเสียงดังกล่าวด้วยเสียงสูงและเข้ม พร้อมโบกมือปฏิเสธ
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยและไม่ได้มีกระแสในเรื่องนี้ มองว่าน่าจะเป็นประเด็นข่าวในเชิงลักษณะการวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ทางการเมือง ดังนั้น คงไม่มีรัฐบาลแห่งชาติ มองว่าเป็นการวิเคราะห์กันไป ยังไม่มีอะไรที่เป็นแก่นสารของเรื่องพวกนี้ รวมถึงกระแสข่าวว่าคนของพรรค พท.จะมาร่วมงานกับรัฐบาลถึงขั้นปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) และปรับเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีนั้น ก็คงยังเป็นข่าวลือ พรรค พปชร.เน้นทำงานเป็นหลักไม่พูดอะไรมากมาย คิดว่าเป็นไปตามบริบทของการเมือง และทำงานในฐานะพรรคแกนนำและนำเสนอนโยบายที่พรรคคิดให้กับรัฐบาลเพื่อนำไปปฏิบัติ การเมืองในตอนนี้โดยเฉพาะในส่วนของพรรค พท.เป็นเรื่องส่วนตัวและเป็นเรื่องภายในของพรรค ยังไม่มีประเด็นที่มาสู่ภาพรวมการเมือง เรื่องนี้ยังไม่มีใครทราบความชัดเจน
เมื่อถามอีกว่าสามารถมองได้หรือไม่ว่าจะทำให้การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมในขณะนี้ลดลงได้หรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็จะเป็นนิมิตหมายที่ดีของประเทศที่จะได้มาช่วยกันทำงานในมิติของความร่วมมือ ความรักและสามัคคีของชาติ หากคนในชาติรักและสามัคคีความแตกแยกลดน้อยลง
