เดินหน้าชน : อย่ารังแกเด็ก

ปัญหาครูหรือพี่เลี้ยงทำร้ายเด็กกลับมาเป็นข่าวครึกโครมอีกครั้ง

หลังจากก่อนหน้านี้เคยมีข่าวทำร้ายเด็กเล็กทำนองนี้มาบ้างแล้ว

ที่ผ่านมาผู้รับผิดชอบและหน่วยงานที่รับผิดชอบก็ออกมาช่วยกันแก้ไข

จนสถานการณ์ดีขึ้นมาระยะหนึ่ง

Advertisement

แต่ในที่สุดก็เกิดขึ้นอีกจนได้ ทั้งที่ไม่ควรจะให้เกิดขึ้น

หากผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบเอาใจใส่ดูแลอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง

โดยเฉพาะมาเกิดขึ้นในโรงเรียนชื่อดัง

Advertisement

ทำให้มีคำถามตามมาว่า

ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร มาตรฐานอยู่ตรงไหน

เข้าใจได้ว่าครูหรือพี่เลี้ยงก็เป็นปุถุชนธรรมดา ย่อมมีอารมณ์หลากหลาย

แต่ไม่ใช่มาระบายอารมณ์กับเด็ก

โดยเฉพาะเด็กเล็กแค่ 3-4 ขวบ ยังไร้เดียงสา

แต่กลับมาโดนทำร้ายทั้ง หยิก ตบ หัวโขกโต๊ะ ผลัก ขังในห้องน้ำ สารพัดวิธีการลงโทษแบบรุนแรง

และอาจจะไม่ใช่แค่ครูคนเดียวที่มีพฤติกรรมแบบนี้

แต่ดูเหมือนมีครูคนอื่นก็ใช้วิธีรุนแรงกับเด็กด้วยเหมือนกัน

ถามว่าโรงเรียนปล่อยให้เกิดเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร

เอาใจใส่ดูแลใกล้ชิดแค่ไหน

และทำไมครูหรือพี่เลี้ยงคนอื่นๆ เห็นการกระทำดังกล่าวแล้วจึงไม่ห้ามปราม

หรือไปรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไป

ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นซ้ำซากได้อย่างไร

นี่ถ้าผู้ปกครองไม่ไปเจอร่องรอยบาดแผลบนร่างกายเด็ก

ก็คงจะยังไม่มีใครทราบพฤติกรรมของครูและพี่เลี้ยง

และถือว่ายังโชคดีที่พ่อแม่รู้ปัญหาก่อนจะเกิดความสูญเสียมากกว่านี้

เหมือนในอดีตเด็กถูกทำร้ายถึงขั้นเสียชีวิตมาแล้ว

ทำไมโรงเรียนถึงไม่คอยหมั่นตรวจสอบดูแลพฤติกรรมของครู

หรือหมั่นคอยพูดคุยซักถามเอาใจใส่

หรือสังเกตบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่

และจำเป็นต้องเอาใจใส่อย่างต่อเนื่อง

ไม่ใช่ปล่อยให้ครูที่มีปัญหาทางบ้าน แล้วมาระบายอารมณ์กับเด็ก

ผู้บริหารโรงเรียนควรวางระบบตรวจสอบ หรือให้ครูหรือพี่เลี้ยงทุกคน ช่วยกันหมั่นตรวจสอบพฤติกรรมซึ่งกันและกันในเรื่องร้ายแรงแบบนี้

ถ้าเกิดพบว่าใครมีพฤติกรรมส่อไปในทางคุมอารมณ์ไม่ได้ ต้องช่วยกันบอกช่วยกันพูด หรือรายงานผู้บริหาร

เพื่อป้องกันไม่ให้มีพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นกับเด็ก

เพราะถ้าเกิดขึ้นแล้ว ผลกระทบจะรุนแรงมาก

ทั้งกับครู ผู้ปกครอง โรงเรียน หรือแม้กระทั่งตัวเด็ก ต้องเดือดร้อนกันไปหมด

สิ่งสำคัญก็คือจิตใจของเด็กจะได้รับความกระทบกระเทือน

อาจจะกลายเป็นแผลในใจไปตลอดชีวิต และอาจลุกลามกลายเป็นปัญหาสังคมได้ในอนาคต

และไม่ใช่แค่เด็กที่ถูกกระทำเท่านั้นที่จะได้รับผลกระทบ

เด็กคนอื่นๆ ที่เห็นพฤติกรรมแย่ๆ บ่อยๆ อาจจะถูกปลูกฝัง

กลายเป็นเรื่องปกติฝังใจไปตลอดชีวิต

เป็นห่วงว่าจะซึมซับความรุนแรงไว้ในใจ

กลายเป็นปัญหาสังคมในอนาคตหรือไม่

เพียงเพราะการกระทำของใครบางคน

หรือการขาดการดูแลเอาใจใส่อย่างเอาจริงเอาจังของทางโรงเรียน

ก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมายกว่าที่ใครหลายคนจะคาดคิด

สุรพล สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image