“บิ๊กตู่”หนุนญัตติแก้รธน.แต่ต้องไม่แตะหมวด 1-2 “ทนายอานนท์”ลั่นพร้อมลงถนน-ไม่เอารบ.แห่งชาติ
ความเคลื่อนไหวการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญนั้น ทั้งนี้เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เชิญแกนนำรัฐบาล หัวหน้าพรรค และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เข้าไปนั่งดื่มกาแฟและหารือ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ทำให้การประชุม ครม.ต้องเริ่มขึ้นล่าช้าไปเล็กน้อย
ทั้งนี้ได้มีการหารือกันในหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้กำชับพรรคร่วมรัฐบาลให้รับญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2 ญัตติ ที่มีหลักการเดียวกัน คือ ญัตติของพรรคร่วมรัฐบาลกับญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ให้แก้ไขมาตรา 256 เพื่อเปิดทางให้มีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญ แต่ทั้งญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญของทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้านจะต้องไม่แตะต้องหมวด 1 และหมวด 2 ส่วนที่จะมีการเคลื่อนไหวของหลายกลุ่มที่จะมีขึ้นในเดือนตุลาคม พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ไม่ได้มีความกังวลใดๆ
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม บุกทาสีหน้ากองพันทหารม้าที่ 4 กองพล 1 รอ. (ม.พัน 4 พล.1 รอ.) ฝั่งตรงข้ามรัฐสภา จะมีการดำเนินคดีหรือไม่ว่า “ไม่รู้ ก็ผู้ชุมนุมเขาจะไป ต้องดูว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่ผิดไม่เป็นไร
เมื่อถามว่า การทาสีทำให้เกิดความเสียหาย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ไม่เสียหายอะไร ตนว่ามาคุยกันดีกว่า พูดกันให้รู้เรื่องดีกว่า เมื่อถามว่า มีหลายฝ่ายเรียกร้องให้เอาจริงเอาจังกับผู้ชุมนุมในการบังคับใช้กฎหมาย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “เจ้าหน้าที่เขาดูอยู่แล้ว”
ด้าน นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “อานนท์ นำภา” โดยระบุว่า ตอนนี้กำลังเคลียร์คดีทั้งหมดที่รับว่าความ จากวันนัดหลัง 14 ตุลาคมจนถึงสิ้นปี มอบให้เพื่อนทนายรับไปจัดการแทน เป็นคดีชาวบ้าน ไม่ได้มีค่าตอบแทนใดๆ คงมีค่าใช้จ่ายค่าเดินทางเล็กน้อย ขอบคุณ ล่วงหน้า สำหรับเพื่อนทนายเข้ามาช่วยเหลือช่วงนี้ มีความสุขที่ได้ร่วมงานในช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญนี้ นับจาก 14 ตุลาคม จะเป็นการลงถนนอย่างแท้จริง และไม่มีอะไรต้องห่วงอีกต่อไป
ขณะที่กลุ่มเยาวชนปลดแอกโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีกระแสการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติระบุว่า ไม่ว่ากระแสข่าวที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้ ว่าจะมีความพยายามจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติและนำบุคคลหนึ่งมาเป็นนายกฯคนกลางจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่เราขอยืนยันในหลักการว่า เราไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้งเพียงเท่านั้น เราไม่ได้สนเพียงปลายทาง แต่วิธีการที่จะได้มา ต้องถูกต้องตรงตามครรลองของประชาธิปไตยด้วย
