บทนำ : กรณีเขต 8 เชียงใหม่
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งยกคำร้องคดี นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีตผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคเพื่อไทย ซึ่งถูก กกต.กล่าวหาว่า ให้เงินทำบุญ 2 พันบาท ระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ขัดต่อกฎหมาย จึงให้ใบส้มและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง จากนั้นจัดเลือกตั้งใหม่ นางศรีนวล บุญลือ ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ ได้เป็น ส.ส. โดยศาลระบุว่า การกระทำของนายสุรพลไม่เป็นความผิด นายสุรพลได้เตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายจาก กกต. 70 ล้านบาท ขณะที่แวดวงการเมืองต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.เผยว่า ได้รายงานให้ กกต.ทั้ง 7 คนทราบผลคำพิพากษาของศาล กรณีที่นายสุรพลจะฟ้องเรียก 70 ล้านบาท ก็เป็นสิทธิของนายสุรพล กกต.จะชี้แจงว่ารัฐธรรมนูญมาตรา 225 วรรคสอง ให้การวินิจฉัยของ กกต.ถือเป็นที่สุด ในส่วนของ กกต.ถือว่าสิ้นสุดแล้ว การที่ยื่นศาลไปเป็นการขอให้ศาลพิจารณาเรื่องของการเพิกถอนสิทธิสมัคร ศาลก็มองว่าไม่เจตนา ซึ่งไม่ตรงกับความเห็นของ กกต. แต่ว่ากระบวนการในการวินิจฉัยชอบทุกอย่าง และศาลก็เห็นด้วยกับการให้ใบส้มของ กกต. การตัดสิทธิหรือใบส้ม 1 ปี ขณะนี้ครบเวลาแล้ว สถานะ ส.ส.ก็คงจะไม่ได้คืน กฎหมายเขียนอย่างนี้ ไม่เช่นนั้น กกต.ก็ไม่กล้าให้ใบส้ม
ประเด็นสำคัญที่ควรทบทวน น่าจะเป็นไปตามที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประธานฝ่ายกฎหมายพรรค ชี้ว่า การให้อำนาจ กกต.ออกใบส้ม เอาผู้สมัครออกจากเวทีการเลือกตั้ง โดยให้เป็นที่สุด เท่ากับให้ กกต.ใช้อำนาจกึ่งตุลาการ เพิกถอนสิทธิผู้สมัคร ในอดีตอำนาจเหล่านี้รัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้งยกให้ศาล โดยเห็นว่า กกต.ไม่ควรจะใช้อำนาจทั้งการสืบสวนสอบสวน วินิจฉัยชี้ขาดได้ในตัวเอง จากความเห็นของนายชูศักดิ์ ถือเป็นปัญหาอำนาจหน้าที่ของ กกต.อีกประเด็นหนึ่ง ที่กฎหมายกำหนดไว้ทั้งในรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกที่ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือน มี.ค.2562 ซึ่งน่าจะต้องมีการทบทวนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในขณะที่กำลังจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และจะมีการใช้กฎหมายเลือกตั้งกันอีกหลายวาระโอกาส
