‘เกษียร’ มอง 6 ตุลา เหตุเกิดจากอุดมการณ์ชาติ 2 ขั้ว ขัดแย้ง ยก ‘3 แนวทาง’ ป้องประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

‘อ.เกษียร’ มอง 6 ตุลา เหตุเกิดจากอุดมการณ์ชาติ 2 ขั้ว ขัดแย้ง ยก ‘3 แนวทาง’ ป้องประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) จัดเสวนาในหัวข้อ “หา(ย)” : อุดมการณ์- ความทรงจำ- รัฐธรรมนูญ

เวลา 10.20 น. ศ.ดร.เกษียร เตชะพีระ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ความจริงแล้ว ความขัดแย้งที่เกิดจากอุดมการณ์การเมืองนั้น ขัดแย้ง เห็นต่างกันตรงไหน คำว่า หนักแผ่นดิน เมื่อฟัง อ.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ เล่า ทำให้นึกถึงจอมพล ประภาส จารุเสถียร ที่กลับมาเพื่อช่วยเขย่าประชาธิปไตย ตอนจอมพลประภาศกลับเข้ามา ส่วนตัวได้ไปทำหน้าที่นักศึกษาที่ดี ไปร่วมชุมนุมต่อต้าน หลายวันจนเหม็นเน่าก็กลับไปอาบน้ำที่บ้าน อาบน้ำกำลังจะใส่เสื้อเพื่อออกมาธรรมศาสตร์ น้องสาวเดินมาไม่พูดชื่อผม แต่ร้องเพลง หนักแผ่นดินใส่หน้าผม

“ความสำคัญของเหตุการณ์ 6 ตุลา อาจใช้อุดมการณ์คอมมิวนิสต์มาอ้าง แต่ที่แน่ๆ คือทำลายระบอบประชาธิปไตย เปิดช่องให้ชนชั้นกลาง นักธุรกิจเข้ามา ตอนที่สอนหนังสือ มีคาบหนึ่งเปิดคลิปเหตุการณ์ 6 ตุลา จบคาบมีนักศึกษาหญิงวิ่งตามมา ชวนเพื่อนวิ่งมาด้วย ถามว่า ‘อาจารย์คะ ทำไมประชาชนปรบมือหัวเราะดีใจที่พวกเราถูกฆ่า’ คำถามเธอมาจากฉากหนึ่งที่สนามหลวง มีชาวบ้านร้อง ปรบมือดีใจ ผมอึ้ง ไม่นึกว่าจะเจอคำถามนี้ อีกอย่างคือการใช้คำถาม ‘ที่พวกเราถูกฆ่า’ เพราะเธอรู้สึกว่านักศึกษาที่ถูกฆ่าคือกลุ่มเดียวกัน ตอนนั้นอึ้ง บอกขอเวลาก่อน สัปดาห์หน้าจะมาตอบ ขึ้นคาบหน้า จึงเปิดด้วยคำถามนี้ และตอบว่า ‘เพราะพวกเขาเข้าใจว่าเราไปกระทบของที่เขารักมากที่สุด และเขาคิดว่าเขาทำตามประสงค์ ของผู้ที่้เขารักมากที่สุด'” ศ.ดร.เกษียรกล่าว

Advertisement

ศ.ดร.เกษียรกล่าวต่อว่า 6 ตุลา 19 คืออะไร อยากจะนิยมว่าคือ “การฆ่าหมู่ กับการรัฐประหาร” ซึ่งเกิดใกล้เคียงกัน เช้า-เย็นโดยรัฐราชการ เพื่อทวนกระแสปฏิวัติกระฎุมพี 14 ตุลา 16 ในบริบทของการเปลี่ยนย้ายอำนาจครั้งที่ 2 จากกลุ่มชนชั้นนำข้าราชการ ไปสู่กระฎุมพีชาวเมือง คนชั้นกลางลงแดง เพราะอเมริกากำลังถอนตัวออก กลัวคอมมิวนิสต์ในประเทศ และอินโดจีน กระฎุมพีจึงกอดยึดสถาบัน เป็นหลักความมั่นคงท้ายสุด

ศ.ดร.เกษียรกล่าวว่า ต่อมามีการแยกขั้วการเมือง และการก่อการร้ายทางการเมืองโดยรัฐพันลึก เกิดสงครามอุดมการณ์ ซ้าย-ขวา ในปี 18-19 พลังฝ่ายขวาระดมพลัง 3 สถาบัน กล่าวคือ ‘ฝ่ายซ้าย เท่ากับ ไม่ไทย’ ฝ่ายขวานิยามชาติ ด้วยเชื้อชาติ และทรรศนะทางการเมือง แขกบ้าง เจ๊กบ้าง ญวนบ้าง ไม่ใช่ไทย มีการบอกว่า 6 ตุลาคือญวนเผาญวน ไม่เกี่ยวกับไทย มีการยืนยันว่า 6 ตุลา การฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป ข้ออสรุปของผมคือ ชาติเป็นฆาตรกรได้ โดยมีปมขัดแย้งคือความขัดแย้งทางอุดมการณ์ของฝ่ายซ้ายและขวา ลองให้ดูคำขวัญหลักของแต่ละฝ่ายว่าพวกเขาเห็นอะไร เช่น ฝ่ายขวามองชาติ ปฏิเสธนิยามชาติโดยเชื้อชาติเป็นเกณฑ์ ไม่แบ่งแยกคนไทยเชื้อชาติต่างๆ พระร่วงถือเป็นพลเมืองไทยที่มีสิทธิเสรีภาพเสมอภาคเท่าเทียม เน้นเส้นแบ่งทางชนชั้นที่ให้ความสำคัญแก่ประชาชนผู้ใช้แรงงานชั้นล่าง ยึดถือหลักความสมานฉันท์ข้ามชาติ และถือว่าคนชั้นสูงกดขี่ขูดรีดคนชั้นล่างชาติเดียวกัน ไม่นับเป็นประชาชนและรวมอยู่ในประชาชาติ ฝ่ายขวามองประชาธิปไตยฝ่ายซ้ายว่า เน้นเนื้อหาอำนาจชนชั้นล่าง กรรมกร ชาวนา ไม่เน้นรูแแบบสถาบันรัฐสภา การเลือกตั้ง พรรคการเมือง

ศ.ดร.เกษียรกล่าวว่า มีชาติสองแบบที่ฝ่ายซ้ายเน้นประชาธิไตย กับชาติที่ฝ่ายขวายึด ชาติในชุมนุมในจินตนาการ ซึ่งสัญชาตินิยมนี้ที่เข้าปะทะชนกันในพื้นที่รัฐชาติเดียวกัน ระหว่าง 14 ตุลาคม 16 ถึง 6 ตุลาคม 19 เหนือสิ่งอื่นใดเพื่อแย่งชิงรักอันเป็นเดิมพันยอดปรารถนา รางวัลสูงสุดและเครื่องมือแห่งอำนาจที่ขาดเสียไม่ได้ในการสถาปนาชาติ แบบที่ตนนิยมให้ปรากฏเป็นจริง ผมไม่รู้มากไปว่าท่านเพราะคนทำรัฐประหาร ตั้งค่าบ้านแห่งชาติ ไม่ใช่เรา

Advertisement

ศ.ดร.เกษียรกล่าวว่า  มี 3 เรื่องที่จะป้องกันไม่ให้เกิด 6 ตุลา คือ 1.ชาตินิยมกระแสหลักไม่เอื้อในการป้องกันการเกิด 6 ตุลาคม แต่ที่ป้อนกระแสมีอยู่คือพล็อตประวัติศาสตร์ไทยที่เราอิน 2.เรื่องรัฐ รัฐคือสิ่งที่เอาชีวิตคุณได้ ภายใต้เงื่อนไขที่แน่นอน ทันที่เข้ามาเป็นสมาชิกรัฐ มีเงื่อนไขหนึ่งระบุไว้ในกฎหมาย รัฐจึงเปรียบเสมือนนักฆ่าส่วนรวม เมื่อเข้ามาอยู่ในรัฐ จึงข่มขู่ ฆ่าคนตายได้ เราจึงจำเป็นต้องควบคุมให้เขาฆ่าทุกคน ถูกเงื่อนไข ถ้าคุมนักฆ่าส่วนรวมไม่ได้ จะเกิดการฆ่าทั้งที่ไม่มีเงื่อนไข ผิดวิธี ผิดกระบวนการ อยู่กับรัฐอย่าลืมข้อนี้ ต้องคุมรัฐให้อยู่เพราะคือนักฆ่ากส่วนรวม ซึ่งจากภาษาที่พูด ไม่ต่างจากเพจ 6 ตุลาคม คือภาษาอาฆาตมาตร้าย หลอนมาก พูดมาได้อย่างไร

“และ 3.ทำให้นึกถึงเรื่องหนึ่งของนักเขียนจีน ชื่อ “บันทึกของคนบ้า” เล่าเหตุการณ์ในแต่ละวัน คนเขียนคือคนบ้า ที่มองคนรอบตัวในครอบครัว ข้อสรุปเขาคือพวกนี้กินเนื้อคน น้องสาวของเขาตายไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน สงสัยว่าญาติในครอบครัวฆ่ากินเนื้อ เขาไม่มั่นใจว่าน้ำแกงนั้นจะไม่มีเนื้อน้องสาวอยู่ด้วย และจบบันทึกลง ด้วยหวังว่าคนจีนที่กินเนื้อคนมา 4 พันปี จะไม่กินเนื้อคนอีก ที่สำคัญอย่าสอนให้คนรุ่นหน้ากินเนื้อคน” ศ.ดร.เกษียรกล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘ธำรงศักดิ์’ ชี้ประชาธิปไตยที่เฟื่องฟู คือเป้าของการรัฐประหาร เหตุ เป็นหนทางเปิดความลี้ลับในอดีต

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image