สื่อมวลชนอาวุโส เย้ย เผด็จการไม่พัฒนาตัวเองตามโลก ชี้หมดยุคบังคับคนอยู่ในกะลา
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่สวนประติมากรรมประวัติศาสตร์ ธรรมศาสตร์กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีการจัดงานรำลึก 44 ปี 6 ตุลา 2519 โดยเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ที่หอประชุมศรีบูรพา ม.ธรรมศาสตร์ สถาบันปรีดี พนมยงค์ จัดเวทีอภิปราย ปรีดี ทอล์ก ครั้งที่ 6 หัวข้อ ‘จากหนักแผ่นดินสู่โรคชังชาติ : ชาติ ความเป็นไทย และประชาธิปไตยที่แปรผัน’
ในตอนหนึ่ง นางนิธินันท์ ยอแสงรัตน์ สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวว่า ตนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระหว่าง พ.ศ.2516-2519 ในยุคที่เพลง ‘หนักแผ่นดิน’ ถูกนำมาชี้หน้านักศึกษา ตนก็โดนด้วย เพราะเป็นนักศึกษาและทำกิจกรรมในการต่อสู้ทางการเมือง
นางนิธินันท์กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ 6 ตุลา ตนใช้คำว่า ‘เหตุการณ์สังหารหมู่’ เสมอ ส่วนเพลงหนักแผ่นดินก็ยังถูกใช้เรื่อยมาหลัง 6 ตุลา เหตุการณ์ที่ผ่านมาเหมือนพายเรือในอ่าง ซ้ำซาก ฝ่ายเผด็จการไม่เปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการกับคนเห็นต่าง ไม่เคยพัฒนาตัวเองให้สอดคล้องกับโลก แต่ไม่ว่าอย่างไรโลกก็หมุนไม่หยุดนิ่ง เวลาไม่เคยอยู่กับที่ โลกนี้ไม่มีใครมีสิทธิบังคับใครให้ดูหนังม้วนเก่า ให้พายเรือในอ่างหรือกะละมังใบเดิม ให้อยู่แต่ในกะลา คนรุ่นใหม่ที่มีสติปัญญา มีความกล้าหาญคือผู้กำหนดอนาคตตัวเองและโลก
“ดิฉันเชื่อมั่นเยาวชนมาก เหมือนที่เคยเชื่อมั่นตัวเอง เป็นคนโลกสวย เชื่อมั่นในพลังของมนุษย์ เราไม่เคยหยุดสู้เพื่อสิ่งที่เชื่อ” นางนิธินันท์กล่าว
