‘ยิ่งชีพ ไอลอว์’ ดูสตาร์วอร์ ยังโยงแก้ รธน. เผยเรื่องสุดซึ้งที่ไม่เคยเล่า
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่สวนประติมากรรมประวัติศาสตร์ ธรรมศาสตร์กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีการจัดงานรำลึก 44 ปี 6 ตุลา 2519 โดยเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ที่หอประชุมศรีบูรพา ม.ธรรมศาสตร์ สถาบันปรีดี พนมยงค์ จัดเวทีอภิปราย ปรีดี ทอล์ก ครั้งที่ 6 หัวข้อ ‘จากหนักแผ่นดินสู่โรคชังชาติ : ชาติ ความเป็นไทย และประชาธิปไตยที่แปรผัน’
ในตอนหนึ่ง นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เนตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ เล่าว่า ตนชมภาพยนตร์เรื่อง สตาร์วอร์ ตัวเอกพูดในห้องประชุมกับนักรบเพียงหยิบมือเดียว โดยบอกว่า ทุกคนจะมาช่วยกัน ถ้าเขารู้ว่า ยังมีความหวังอยู่ เผด็จการชนะด้วยการทำให้เราคิดว่าไม่มีใคร แต่ไม่ใช่เช่นนั้น เพราะมีคนอีกมากที่พร้อมช่วย การแก้รัฐธรรมนูญก็เช่นกัน มีแค่ทีมงาน แต่มีความกล้าเริ่มด้วยความเชื่อ การสนับสนุนอื่นๆ จะตามมา
วันที่ตนท้อแท้กับการเมืองไทยที่สุดคือ 7 สิงหาคม 2559 เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับ คสช. ผ่านประชามติ มีการสร้างเกมสืบทอดอำนาจ สิ่งที่รู้ว่าจะเกิดขึ้น คือ ระบอบการเมืองที่ไม่ว่าอย่างไร พลเอกประยุทธ์ ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐธรรมนูญที่เขียนมาให้แก้ไม่ได้ มีการวางอนาคต 20 ปี ในวันที่รู้ว่าผ่านประชามติ มีทางเลือกคือ ท้อแท้หรือสู้ต่อ
กว่า 4 ปี ทีมไอลอว์ จับตา ศึกษากระบวนการต่างๆ เผยแพร่ข้อมูลความรู้ กระทั่ง 7 สิงหาคม 2563 เป็นวันแรกที่เริ่มโครงการร่วมรื้อ ร่วมร่าง ร่วมสร้างรัฐธรรมนูญ รวบรวม 5 หมื่นชื่อ ซึ่งในเวลาเพียง 43 วัน ได้มากกว่าแสนชื่อ ไปยื่นที่รัฐสภา ที่ผ่านมาได้รับความช่วยเหลือมากมาย หลายคนเสนอตัวเป็นอาสาสมัคร วันที่ 19 กันยายน เป็นวันที่รวบรวมรายชื่อได้มากที่สุด คือกว่าราว 18,000 ชื่อ
นายยื่งชีพกล่าวว่า ที่สุดแล้ว ไม่รู้ว่า รัฐธรรมนูญจะถูกแก้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ทุกอย่างรอบตัว หลังจากกิจกรรมนี้จะไม่เหมือนเดิม เราได้เห็นว่ามีคนที่พร้อมสนับสนุนเราตลอดเวลา
“วันนี้ 44 ปีที่แล้ว อาจมีเรื่องเจ็บปวด เราต่างมีบาดแผล ผมเกิดไม่ทัน แต่สำหรับคนรุ่นพ่อแม่ เป็นวันที่น่าท้อแท้สิ้นหวังที่สุด แต่วันนี้ เรามาร่วมรำลึกว่าบริบททางการเมืองไม่เหมือนเดิม เมื่อเปลี่ยนขนาดนี้ จะย้อนกลับไม่ได้ ลุงป้าที่เคยสู้ยังนั่งอยู่ที่นี่ และยังสู้
คนรุ่นใหม่ ที่กำลังเรียนรู้ เติบโต นี่คือปรากฏการที่ไม่เคยเกิดมาก่อน ยิ่งแรงกดมาก แรงต้านยิ่งมาก
การต่อสู้ยังคงอีกยาวไกล ไม่เสร็จในเร็ววัน เราต้องมีความหวังเสมอไป อย่างน้อยเพื่อรอวันเห็นอะไรอีกหลายอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นไปด้วยกัน” นายยิ่งชีพกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในตอนหนึ่ง นายยิ่งชีพถามว่า ใครบ้างที่มีชื่ออยู่ในกว่าแสนชื่อร่วมแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งผู้ร่วมงานทั้งหอประชุมต่างยกมือขึ้นมาพร้อมกัน
นายยิ่งชีพ ยังกล่าวว่า มีเรื่องที่ไม่เคยเล่าที่ไหนมาก่อน กล่าวคือ มีคนอีกหลายคนที่ส่งพลังมาให้ ไม่ว่าจะเป็น พนักงานไปรษณีย์ ซึ่งช่วงแรกบ่นว่า ทำอะไรกันเยอะแยะ ต่อมา เขาติดตามข่าว จึงเริ่มเปลี่ยนท่าที บอก ‘สู้ๆนะ’ วันหนึ่ง ตนไปรับจดหมายที่คนส่งเอกสารมาให้ พนักงานบอกว่า ‘ของพี่ใส่ไปแล้ว อยู่ในนั้นแล้ว’ ซี่งเป็นการส่งโดยไม่ต้องติดแสตมป์
นอกจากนี้ เพื่อนสมัยเรียนของตน ซึ่งแยกย้ายไปทำงานเอกชน เมื่อมีกิจกรรม เพื่อนรวมกันสั่งซื้อน้ำส้มคั้นส่งมาให้เป็นเสบียง
อีกเหตุการณ์หนึ่ง มีลุงคนหนึ่งมาต่อแถวลงชื่อแก้รัฐธรรมนูญ เขาเห็นว่าแถวยาว จึงช่วยบอกขั้นตอนให้คนอื่นๆ ที่ต่อแถวอยู่ วันรุ่งขึ้น ลุงยังลางานมาช่วยจัดแถวโดยเฉพาะ
นายยื่งชีพกล่าวว่า คนถ่ายเอกสารหน้าปากซอย เห็นเนื้อหาที่ตนนำไปถ่ายเอกสาร ได้กล่าวให้กำลังใจ ทั้งยังมอบกล่องกระดาษเอสี่ให้ รวมถึงประสานให้ยืมปริ๊นเตอร์ขนาดยักษ์ ส่วนป้าร้านซักรีด ถามตนว่า 14 ตุลา ต้องไปอีกใช่ไหม ป้าปิดร้านไม่ได้ แต่เชียร์ ด้านแกรปไบค์ ซึ่งปกติจ่ายเงินโดยตัดบัตรเครดิต มีการนำเงินสดคืนให้ตน โดยบอกว่า ขอให้เขาได้ทำในสิ่งที่พอจะทำได้
