ส.ส.คลองสาน เล่าข้อกังวลคนเจริญนคร หลัง มท.เคาะสร้างศูนย์ราชการ ย้าย ขรก. 7 พันคน
จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้แก้ไขสถานที่ สร้างศูนย์ราชการของกระทรวงมหาดไทย จากเดิมข้างวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นแขวงบางลำพูล่าง เขตคลองสาน จำนวน 18 ไร่ โดยใช้งบประมาณ 5,574 ล้านบาท
ครม. เคาะใช้ที่เขตคลองสาน ก่อสร้างศูนย์ราชการ มท. งบฯ 5.5 พันล้านบาท
นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล เขตคลองสาน ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า
“ว่าด้วยเรื่องของที่ทำการกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่
วันนี้ผมมีเรื่องแจ้งแก่ชาว #คลองสาน และพี่น้อง #ฝั่งธน ทุกท่านครับ
เนื่องจากในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี #6ตุลา ได้มีมติอนุมัติให้ใช้ที่ดินราชพัสดุแขวงบางลำพูล่าง เขตคลองสาน (เนื้อที่ประมาณ 18 ไร่) วงเงิน 5,574,500,000 บาท ก่อสร้าง #ศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะรวมทั้ง 6 กรมในสังกัด มท. มาอยู่ที่เดียวกัน
ฉะนั้น ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วนะครับว่า ชาวเจริญนครกำลังจะได้เจอกับเมกะโปรเจ็กต์ใหญ่ๆ อีกครั้ง ต่อเนื่องจาก #IconSiam และ #รถไฟฟ้าสายสีทอง
ผมเองก็ติดตามโครงการนี้มานาน เพราะส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในเขต ทั้งคนที่อาศัยอยู่แถบนั้นและคนที่ต้องสัญจรไปมาผ่านย่าน #เจริญนคร #สะพานตากสิน
อีกทั้งยังจะมีข้าราชการประจำกว่า 7,800 คน ที่จะต้องเดินทางเข้ามาทำงานในพื้นที่ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในบริเวณนั้นเป็นอย่างมาก
โดยผมได้เข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนด้วยเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2563 ณ วัดเศวตฉัตรราชวรมหาวิหาร
โดยชาวบ้านที่มาแสดงความคิดเห็นในวันนั้นส่วนใหญ่จะมาจาก #ชุมชนอู่ใหม่ ซอยเจริญนคร 23 ซึ่งเป็นชุมชนเก่าอยู่บริเวณนั้นมานาน และอยู่ติดกับพื้นที่ที่จะมีการก่อสร้าง ประธานชุมชนได้ลุกขึ้นพูดในที่ประชุมถึงข้อกังวลของชาวบ้านว่าจะถูกเวนคืนที่หรือไม่
ซึ่งตัวแทนจากกระทรวงได้ตอบในที่ประชุมแล้วว่า จะไม่มีการเวนคืนที่แต่อย่างใด จะใช้เฉพาะอาณาเขตของที่ราชพัสดุเท่านั้น
ส่วนกรณีที่เกิดความเสียหายจากการก่อสร้าง มีการกำหนดวงเงินสำรองสำหรับใช้จ่ายเบื้องต้นระหว่างรอเคลมประกันไว้ 15 ล้านบาท
หลังเลิกประชุม ผมเลยถือโอกาส “ลงพื้นที่” ไปดูบริเวณที่จะก่อสร้างหน่อย
แต่เนื่องจากเป็นที่ราชพัสดุล็อกไว้เข้าไปไม่ได้ จึงเดินเลาะเข้าไปในซอยเจริญนคร 23 ที่ท้ายซอยผมพบคุณลุงที่ได้ลุกขึ้นพูดในที่ประชุมเหมือนกัน ผมจำแกได้เลยขอเข้าไปดูหลังบ้านแกที่ติดกับพื้นที่ก่อสร้าง
จึงได้ไปเห็นพื้นที่อู่ต่อเรือ ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อชุมชน และนอกจากนี้ยังมีหลุมหลบภัยด้วย ที่มีเพราะลุงเล่าว่าที่ตรงนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการทิ้งระเบิดสมัยนั้น
เล่ามาตั้งยาว แต่ผมยังไม่มีข้อสรุปให้ ใช่ครับเพราะหลายๆ อย่างยังไม่ลงตัว รายงานยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ระหว่างนี้ บริษัทเขาก็ต้องรับเรื่อง จากที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็นไปปรับปรุงรายงาน ซึ่งน่าจะใช้เวลาอีก 3 เดือนเป็นอย่างต่ำ และจะเข้าสู่การพิจารณาของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป
