มติร่วมพรรคพลังประชารัฐกับ 250 ส.ว.จัดตั้ง”คณะกรรมาธิการ”วิสามัญศึกษาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ทั้ง 6 ฉบับเมื่อวันที่ 24 กันยายนถือว่าอันตรายอย่างยิ่งแล้ว
หากมีการเสนอให้ทำ”ประชามติ”ก่อนดำเนินการหรือไม่ดำเนิน การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเข้ามาอีก
สภาพก็ไม่เพียงแต่จะมิได้เป็นการถอน”ฟืน”ออกจากเตาไฟอย่างที่หลายฝ่ายเรียกร้องต้องการเฉพาะหน้าเท่านั้น หากแต่ยังเท่ากับเป็นการยก”ก้อนหิน”ทุ่มใส่ขาตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า
โดยเป้าหมายเฉพาะหน้าอาจสามารถเตะถ่วงในลักษณะหน่วง และซื้อเวลาให้กับรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ออกไปได้ระยะหนึ่ง แต่ที่ตามมาคือความร้อนแรงแห่งความรู้สึกของประชาชน
ความร้อนแรงที่จะปะทุขึ้นในการเคลื่อนไหววันที่ 14 ตุลาคมก็เป็นเรื่องน่ากลัวอย่างยิ่งอยู่แล้ว สภาพที่จะตามมายิ่งจะหนักหนา
ในที่สุดที่จะยื้อเวลาให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจจะไม่มีเวลาเหลือให้
ต้องยอมรับว่าในขณะนี้มีการเผยแพร่ความคิดในเรื่อง”รัฐบาลแห่งชาติ”ด้วยความคึกคักอย่างเป็นพิเศษ
สัมผัสได้จากการจินตนาการต่อเนื่องจากภาพของ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์
ต่อหัวต่อหางไปยังการเปลี่ยนแปลงอย่างอึกทึกครึกโครมภายในพรรคเพื่อไทย ต่อหัวต่อหางไปยังผลสะเทือนที่จะไปติดเบรก ให้กับ”คนเสื้อแดง”
จากนั้นก็มโนอย่างเพริศแพร้วพรรณรายถึงการร่วมมือกันระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทย โดยมี 250 ส.ว.เป็นผนัง ทองแดงกำแพงเหล็กอย่างสำคัญ
ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าหากเป็นไปอย่างที่”มโน”อะไรจะตามมา
แน่นอน ภายในความฝันอันบรรเจิดนั้นแทบไม่มีที่ทางเหลือให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากแต่เป็น”คนอื่น”
ไม่ว่าภายในบุคคลที่แวดล้อม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมาก ด้วยจินตนาการอย่างไร แต่ในที่สุดสภาพความเป็นจริงของวันที่ 14 ตุลาคมย่อมจะบังเกิด
จะเป็น 14 ตุลาคมที่มีคน”เรือนหมื่น”หรือ”เรือนแสน”
กระนั้น เป้าหมายแน่นอนอย่างยิ่งก็คือ เสียงตะโกน”ออกไป ออกไป”ที่จะดังกึกก้องบนถนนราชดำเนิน
เป็นการสื่อไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยตรง