“วิลาศ” แฉ “อ.และป.” วิ่งเต้นประสานคนใน อคส. ร่วมทุจริตถุงมือยางมูลค่ากว่าแสนล้าน ทำเงินรัฐสูญจับมือใครดมไม่ได้ บี้ “บิ๊กตู่-จุรินทร์” เร่งจับคนโกงให้ได้
เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าาวถึงการทุจริตในการจัดซื้อถุงมือยางขององค์การคลังสินค้า (อคส.) มูลค่า 112,500 ล้านบาทว่า ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นการเอื้อทุจริตโดยมีคนในองค์กรร่วมรู้เห็น โดยมีตัวละครเป็นคนนอกอีก 2 คนคือ นาย อ. ซึ่งเป็นสื่อมวลชนเก่า ที่รู้จักกับผู้บริหาร อคส. และ นาย ป. อดีตข้าราชการระดับสูงในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นคนวิ่งเต้นประสานงาน ซึ่งเหตุไม่ชอบมาพากลคือ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ รักษาการณ์ ผอ.อคส. ที่กล้าลงนามในสัญญาแค่ 3 หน้าครึ่ง โดยที่ไม่ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ในวันที่ 31 ส.ค.63 ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 1.1 แสนล้านบาท โดยต้องจ่ายเงินล่วงหน้า 2,000 ล้านบาท เป็นค่ามัดจำในวันที่ 2 ก.ย. 2563 หลังลงนามในสัญญาสั่งผลิต ทั้งที่บริษัทการ์เดียน โกลฟ์ เพิ่งจดทะเบียนขอจัดตั้งได้ไม่ถึง 2 เดือน และไม่มีเครื่องจักรกล หรือกำลังการผลิตถุงมือยางแต่อย่างใด
นายวิลาศกล่าวต่อว่า ที่น่าแปลกใจคือ ในสัญญาซื้อขายถุงมือยางระหว่าง อคส. กับบริษัทดังกล่าว กลับไม่มีการระบุถึงเงื่อนไข หรือการเรียกค่าเสียหาย หากมีการทำผิดสัญญาแต่อย่างใด แม้ทางบอร์ด อคส. ได้สั่งยกเลิกสัญญาดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่มีการเจรจากับบริษัทนี้เกี่ยวกับเงินที่จ่ายล่วงหน้าไปแล้ว 2,000 ล้านบาท
จึงขอตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้ ถ้าผู้บริหาร อคส.ไม่รู้เห็น คงจะไม่สั่งถอนเงินหมุนเวียนภายในองค์กรที่มีอยู่ 3,230 ล้านบาท ออกไปจ่ายล่วงหน้าให้บริษัทนี้ถึง 2,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่รู้ว่า เงินจำนวนนี้อยู่ในมือใคร บัญชีใคร กี่คน รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดมาตลอดว่าเป็นรัฐบาลปราบทุจริต มีรัฐธรรมนูญปราบโกง หรือแม้แต่ รมว.พาณิชย์ที่ดูแลกำกับ อคส.โดยตรง กลับไม่เคยพูดถึงการทุจริตการจัดซื้อถุงมือยาง 1.1 แสนล้านบาทเศษ ที่รัฐต้องสูญเงินไปแล้ว 2,000 ล้านบาท ว่าจะเอาคนที่ร่วมทุจริตมาลงโทษตามกฎหมายให้เห็นเป็นตัวอย่าง เพียงแต่บอกสื่อแบบปัดๆ แค่ว่าตั้งกรรมการสอบแล้ว แต่ผลความคืบหน้าเป็นอย่างไร ไม่เคยชี้แจง
“ขอถามว่ามีความจริงใจในการปราบโกงหรือไม่ และใครต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ หรือจะปล่อยเป็นคลื่นกระทบฝั่งต่อไป ยืนยันว่าผมจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและจะกระชากหน้ากากคนโกงให้สังคมได้รับรู้” นายวิลาศกล่าว