‘อันวาร์’ ชี้คำวินิจฉัยศาลรธน. “พรบ.คําสั่งเรียกของกมธ.สภา ขัดรธน.” สะดุ้งทั้งแผ่นดิน

‘อันวาร์’ ชี้คำวินิจฉัยศาล รธน. “พรบ.คําสั่งเรียกของกมธ.สภา ขัด รธน.” สะดุ้งทั้งแผ่นดิน อาจก้าวก่ายอำนาจนิติบัญญัติ เหมือนทำให้เป็นอัมพาต เรียกร้อง ส.ส.ทุกพรรครักษาระบอบ ปชต. ไม่ให้ผิดเพี้ยน

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีสื่อมวลชนพาดหัวข่าวว่า “สะดุ้งทั้งสภา…ศาลรธน.มีมติเอกฉันท์พ.ร.บ.คําสั่งเรียกของกมธ.สภา ขัดรัฐธรรมนูญ” นั้น เรื่องนี้เห็นว่าไม่ได้สะดุ้งทั้งสภา แต่สะดุ้งทั้งแผ่นดินเพราะคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร ทําให้ไม่เป็นประโยชน์ในการตั้งกรรมาธิการของรัฐสภาอีกต่อไป เพราะถึงตั้งมาก็ทํางานไม่ได้ เนื่องจากไม่สามารถจะแสวงหาข้อเท็จจริงได้เลย หากไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน ต่างๆ ตลอดจนบุคคลที่ทราบข้อเท็จจริงนอกจะตั้งมาเพื่อให้ส.ส.ได้รับเบี้ยประชุมเพิ่มมากขึ้น

นายอันวาร์ สาและ กล่าวว่า ทุกวันนี้ภาพพจน์ของการเมืองไทยก็มีปัญหาตกตํ่ามากอยู่แล้ว สมาชิกหลายคนก็โอดครวญว่าถูกปกครองด้วยองค์กรอิสระ ทุกอย่างเริ่มปรากฏชัดขึ้นทุกวัน การจะเป็นรัฐบาลได้ต้องมีเสียงข้างมาก จึง ทําให้อํานาจนิติบัญญัติถูกควบรวมกับอํานาจบริหารเพื่อใช้ในการบริหารประเทศดังที่เป็นอยู่ มติในสภาซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติต้องทําตามมติของฝ่ายบริหารดังที่ปรากฏ จึงเป็นที่มาของคําว่า “เผด็จการรัฐสภา” ส่วนอํานาจตุลาการต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเหลือเป็นที่พึ่งเดียวของประชาชน แต่จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคําวินิจฉัยออกมาเช่นนี้ ทําให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเป็นการก้าวก่าย ทําให้อํานาจนิติบัญญัติเป็นอัมพาต คือยังมีชีวิตอยู่แต่ขยับไม่ได้ ดังนั้นจึงมีคําถามตามมาว่า “อํานาจอธิปไตยทั้ง 3 คืออํานาจ นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ นั้นเป็นของประชาชนจริงหรือ?”

นายอันวาร์ กล่าวว่า ทราบดีการบริหารประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีผลประโยชน์ขัดกันอยู่ในสังคมเสมอ คือ ชาวนาก็ต้องการขายข้าวแพง ประชาชนก็อยากซื้อข้าวในราคาถูก เมื่อเงินบาทแข็งและเงินบาทอ่อน มีทั้งคนได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ในเวลาเดียวกัน (เรียกว่า conflict of interest) ดังนั้นการบริหาร ประเทศจึงต้องบริหารอย่างมืออาชีพที่เข้าใจปัญหาของประชาชนอย่างแท้จริง ในช่วงที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น ผบ.ทบ. เคยพูดว่า “การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง” ในความหมายคือ การเมืองต้องต่อสู้กันด้วยความคิด “ไม่ต้องมีตัวช่วย” องค์กรอิสระจะได้ไม่ต้องถูกกล่าวหา

“พรรคการเมืองใดที่เสนอแนวคิดที่ดี มีจุดยืนที่ชัดเจน ก็จะชนะการเลือกตั้ง พรรคใดที่แพ้ก็ต้องกลับมา ทบทวนบทบาทในการทํางาน และคิดนโยบายใหม่ๆ เพื่อนํามาเสนอต่อประชาชน เพื่อเรียกศรัทธาและถูกเลือกกลับมาเป็นผู้ชนะอีกครั้งนึง นี่คือระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงแบบ “ไม่ต้องมีตัวช่วย” ดังประเทศที่เจริญแล้วผมจึงขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองทุกพรรคนําเรื่องคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนี้ ไปพิจารณาเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตยไม่ให้ผิดเพี้ยนไปมากกว่านี้” นายอันวาร์ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image