“อนุชา” ชี้ ม็อบ14 ตุลาไม่น่าห่วง ยันขอยืนตรงข้าม คนเสนอปฏิรูปสถาบันอยู่ใต้รธน.

“อนุชา” ยัน ขอยืนตรงข้าม คนเสนอปฏิรูปสถาบันอยู่ใต้รธน. ถ้าเรื่องอื่นคุยได้หมด

เมื่อเวลา 10.40 น.วันที่ 9 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของ “กลุ่มคณะราษฎร” ในวันที่ 14 ตุลาคม นี้ว่า ไม่มีอะไรกังวล และไม่เห็นว่ามีอะไรแตกต่างจากครั้งก่อนที่จะนำไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้าย ถือเป็นการแสดงออกของนักเรียนและนักศึกษา ซึ่งเป็นลูกหลานที่มาแสดงออกตามสิ่งที่เขาคิดเขาเห็น และ สิ่งที่เขาอยากให้เกิด ส่วนหนึ่งอยู่ที่ประชาชนจะเห็นด้วยหรือเห็นต่างอย่างไร จึงต้องรอดูผลความคิดเห็นของสังคมส่วนรวมด้วย ถึงจะไม่กังวลแต่เป็นห่วง นิสิต นักศึกษา ที่เป็นลูกหลาน อยากให้ทุกฝ่ายดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ ตามขอบเขตประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ความเห็นต่างไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การดำเนินการให้บ้านเมืองสงบสุข นำความเห็นต่างสู่เวทีประชาธิปไตยที่โดยไม่เกิดวิบัติกับชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งที่เราอยากเห็น ซึ่งกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวจะได้เข้าใจขึ้นตามลำดับ ตามที่เขาได้พยายามเรียกร้อง ทั้งนี้รัฐบาลยังไม่ได้มอบหมายให้ใครเป็นผู้ประสานงานกับผู้ชุมนุม เพราะเขายังไม่ระบุว่าจะยื่นหนังสือมาที่รัฐบาลแต่อย่างใด

เมื่อถามว่าประเมินว่ามีผู้ชุมนุมจะมามากกว่าวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมาหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ตอนนี้คงประเมินอะไรได้ไม่มาก คงมีผู้ร่วมอุดมการณ์ที่อยู่ในกรอบตามที่เขาดำเนินมาซึ่งคงไม่แตกต่างไปกว่าเดิม ส่วนที่มีการเปลี่ยนชื่อเป็นกลุ่มคณะราษฎร คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะเปลี่ยนมิติ เพราะที่ผ่านมายังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่เขาคิด จึงเปลี่ยนรูปแบบเพื่อหาแนวร่วมเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การเปลี่ยนชื่อกลุ่มเพื่อโยงไปถึงคณะราษฎรในอดีตหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ไม่เป็นไร ถือเป็นความคิดเห็นและเขาต้องการให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง แต่สังคมต้องการด้วยหรือไม่ สังคมจะต้องตอบ อยู่ที่ประชาชนคนไทย จะเป็นผู้ตอบโจทย์ประเทศจะไปในทิศทางไหน

“อยากวิงวอนนิสิต นักศึกษาหันหน้ามาคุยกันเพื่อหาทางออกให้ประเทศ รัฐบาล และนายกฯมีความจริงใจ และเป็นห่วงลูกหลานทุกคนไม่มีความคิดเป็นอย่างอื่น ไม่มีความคิดมาดร้ายหรือคุกคาม แต่บางครั้งผู้ชุมนุมอาจเกินเลย เรื่องขอบเขตกฎหมาย ซึ่งเราก็เห็นกันอยู่ เราก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันเกินเลยแล้ว แต่รัฐบาล หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอะลุ่มอะล่วย ให้เขาได้แสดงออก แต่การตัดสินใจเป็นหน้าที่ของประชาชน ซึ่งคุมเสียงของประเทศ เราต้องช่วยนำพาประเทศพ้นวิกฤติไปให้ได้เพราะมีวิกฤตอยู่หลายเรื่อง เช่นโควิด – 19 ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลก็ทำได้ดี ซึ่งการชุมนุมก็มีความเสี่ยง ประชาชนต้องช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาด แต่ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรเพราะเขาก็บอกว่าเป็นสิทธิ์” นายอนุชา กล่าว

Advertisement

ส่วนกรณีข้อเรียกร้องที่ให้ปฏิรูปสถาบันอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ นายอนุชา กล่าวว่า บ้านเมืองเรามีเสาหลัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มานาน ที่เราไม่ต้องเป็นเมืองขึ้นของใคร ไม่อยู่ภายใต้ระบบเผด็จการ เรามาแถลงข่าวยืนพูด เดินขบวนกันได้ขนาดนี้ นับเป็นโชคดีของประเทศไทย ที่เรามีเสาหลัก ที่สามารถคานอำนาจสิ่งที่ไม่คาดฝันเหมือนที่ประเทศอื่นได้รับ นี่คือสิ่งที่เป็นคุณูปการที่เราได้รับมา ส่วนตัวถ้ามีเรื่องนี้ไม่เอาแน่นอน หัวเด็ดตีนขาด ก็ไม่มีตนอยู่ในนั้นแน่นอนในการคิดและเปลี่ยนในสิ่งนี้ ถ้ามีเรื่องนี้ตนก็เดินตรงข้ามอย่างเต็มที่ เว้นเรื่องนี้เรื่องเดียว เรื่องอื่นคุยได้หมด เพราะเรื่องนี้คนคิดว่าเป็นเรื่องของชาติบ้านเมืองที่เราอยู่ปลอดภัยมา บางครั้งอะไรที่เราควรจะอดทนอดกลั้นเพื่อประเทศที่สงบและมีเสาหลักคานให้เราอยู่ได้เป็นที่ค้ำยันให้เรามีเสรีภาพในระบอบของเมืองไทยของเรา และเมืองไทยของเราไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนคนอื่น100% และสิทธิเสรีภาพที่เรามีก็ค่อนข้างสูงแล้วในโลกใบนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image