‘จรุงวิทย์’ จ่อเสนอเรื่องวันเลือกตั้ง อบจ. เข้าที่ประชุมจันทร์นี้ ไม่ยืนยันได้ข้อสรุปเลยหรือไม่

‘จรุงวิทย์’ จ่อเสนอเรื่องวันเลือกตั้ง อบจ.เข้าที่ประชุมจันทร์นี้ ไม่ยืนยันได้ข้อสรุปเลยหรือไม่ เหตุต้องคำนึงหลายปัจจัย แนะผู้สมัครศึกษาข้อกฎหมายให้ดี

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการเตรียมพร้อมเลือกตั้งนายก และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ไม่เหมือนกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้วที่ กกต.กำหนดทุกอย่าง ซึ่งในครั้งนี้การจัดการเลือกตั้งเป็นหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วน กกต.มีหน้าที่กำกับดูแล ทั้งนี้ การเตรียมพร้อมของ กกต. นอกจากการรายงานให้ กกต.ทั้ง 7 คนทราบ หลัง ครม.มีมติ รวมถึงขั้นตอนการตั้ง กกต.ประจำเขต อบรม กปน. ด้วยการสร้างวิทยากร เพื่อไปอบรม กปน.ทั่วประเทศ ส่วนการป้องปรามการทุจริตและการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ก็ได้มีการประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 12 ตุลาคมนี้ จะนำเสนอเรื่องการกำหนดวันเลือกตั้ง นายก และสมาชิก อบจ.ให้ที่ประชุม กกต.พิจารณาตามขั้นตอน แต่ไม่ยืนยันว่าจะได้วันเลือกตั้ง เพราะการกำหนดวันถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะไม่ใช่ไปกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ผู้มาใช้สิทธิไม่สะดวก ติดภารกิจ ซึ่งมีหลายปัจจัยมากที่ กกต.จะต้องพิจารณา โดยเมื่อ กกต.กำหนดแล้ว ก็จะแจ้งไปยังผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด เพื่อแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

“ในการกำกับดูแล ควรจะใช้วันเลือกตั้งวันใด สมัครเมื่อไหร่ ขั้นตอนต่างๆ ต้องมีการเตรียมการล่วงหน้า ก่อน กกต.มีมติให้จัดการเลือกตั้ง เพราะถ้า กกต.มีมติให้จัดการเลือกตั้งเมื่อไหร่ นายกและสมาชิก อบจ.ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ห้วงเวลาในระหว่างที่หยุดปฏิบัติหน้าที่จนสิ้นสุดการเลือกตั้ง เราก็ไม่อยากให้ยาวมาก เพราะว่าท้องถิ่นจะขาดการบริหารจัดการ” พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าว และว่า ส่วนวันเลือกตั้งไปอยู่ในช่วงที่รัฐบาลประกาศเป็นวันหยุดในก่อนหน้านี้ จะมีผลดีต่อการเลือกตั้งหรือไม่ เป็นดุลพินิจของ กกต. โดยสำนักงานจะนำเสนอข้อดีข้อเสียในทุกประเด็น รวมทั้งความพร้อมและความสะดวกของผู้มีสิทธิเลือกตั้งด้วย

Advertisement

พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า เมื่อ กกต.ประกาศวันเลือกตั้งแล้ว ก็จะมีวันรับสมัคร ที่จะใช้เวลา 5 วัน ซึ่งกฎหมายใหม่มีการกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครไว้หลายอย่าง ถ้าคิดว่าจะเป็นผู้สมัครควรศึกษากฎหมายและระเบียบต่างๆ ให้ดีเพราะในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เช่น การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็มีผู้ที่รู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติมาลงสมัครรับเลือกตั้ง จึงเกิดปัญหา เพราะถ้ารู้ว่าขาดคุณสมบัติแล้วยังมาลงสมัคร ก็จะมีโทษทางอาญา ดังนั้น ต้องพิจารณาดูให้ดีว่าตนเองมีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ เราไม่อยากให้การเลือกตั้งต้องมาดำเนินคดีอาญากับผู้สมัคร รวมทั้งการหาเสียงหรือการทุจริตเลือกตั้ง จะได้ช่วยกันเพื่อให้การเมืองระดับท้องถิ่นสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เพราะการเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นการที่รัฐกระจายอำนาจให้ประชาชนดูแลบริหารจัดการตัวเอง เป็นหลักของประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่การเลือกตั้งนายกและสมาชิก อบจ.จะกลายเป็นการสร้างฐานเสียงให้กับพรรคการเมืองหรือรัฐบาล พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งและประชาชนว่าจะเลือกใคร รวมทั้งความนิยมชมชอบพรรค ซึ่งก็ห้ามไม่ได้ และกฎหมายก็ไม่ได้ห้ามพรรคการเมืองส่งผู้สมัคร ดังนั้น จึงขอให้เลือกคนดีเข้าไปทำหน้าที่

พร้อมกันนี้ เลขา กกต.ยังได้กล่าวเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายกและสมาชิก อบจ. ถือเป็นการเลือกตัวแทนที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุดเข้าไปบริหารจัดการ เมื่อถึงวันเลือกตั้งขอให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อแสดงเจตจำนงที่แท้จริงว่าต้องการใครเป็นผู้บริหาร ต้องการใครเป็นผู้ออกกฎระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ในท้องถิ่น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image