ตัดผมโชว์กลางสกายวอล์ก จวก ‘การศึกษาฆ่าฉัน’ จ่อร่อน จ.ม.เป็นจรวดเข้าทำเนียบ

ตัดผมโชว์กลางสกายวอล์ก จวก ‘การศึกษาฆ่าฉัน’ จ่อร่อน จม.เป็นจรวดเข้าทำเนียบ

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่สกายวอล์ก แยกปทุมวัน องค์กรปลดเผด็จการเพื่อเสรีภาพ – Dictatorship Demolition Organisation จัดกิจกรรม ‘Social Problem สะท้อนปัญหาสังคมผ่านงาน Art’

บรรยากาศเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ปทุมวัน รวมถึงเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ รวมถึงเจ้าหน้าที่เทศกิจ สังเกตการณ์โดยรอบ ในขณะที่ผู้จัดกิจกรรมรวมตัวบริเวณสกายวอล์ก ฝั่งซ้ายของอาคารเอ็มบีเคเซ็นเตอร์ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ

ต่อมาเวลาประมาณ 17.05 น. ผู้จัดเคลื่อนย้ายไปยังสกายวอล์กจุดที่เป็นลานขนาดใหญ่ข้ามแยกปทุมวัน พ.ต.อ.พาติกรณ์ สรชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน เข้าแจ้งเตือนว่า จากการที่ผู้จัดได้แจ้งการชุมนุมแล้วนั้น มีการทำผิดเงื่อนไข คือต้องไม่กีดขวางผู้อื่นและไม่เคลื่อนย้ายที่ รวมถึงต้องมีมาตรการการควบคุมโรค ขอให้แก้ไขโดยด่วน มิฉะนั้นเข้าข่ายผิดกฎหมาย จากนั้นผู้จัดซึ่งเป็นนักเรียนนักศึกษาจึงเข้าเจรจาว่าเป็นเพียงการย้ายมาถ่ายภาพ 5 นาทีเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยินยอม ผู้จัดซึ่งแต่งกายในชุดนักเรียน นักศึกษา และนางงาม จึงร่วมกันถ่ายภาพโดยมีการจัดวางแผ่นป้ายมีข้อความต่างๆ อาทิ กดดัน บังคับ ความคาดหวัง รวมถึงจำลองเหตุการณ์ความรุนแรงในประวัติศาสตร์การเมืองไทย โดยเฉพาะ 6 ตุลาคม 2519

Advertisement

จากนั้นมีการย้ายไปจุดเดิมตามที่แจ้งการชุมนุม แต่เจ้าหน้าที่เอ็มบีเคเซ็นเตอร์นำแผงเหล็กเข้ากั้น มีข้อความว่า ‘ขอสงวนสิทธิในการใช้พื้นที่ เว้นแต่ได้รับผิดชอบ’ ประชาชนผู้ร่วมชุมนุมตะโกนโห่ด้วยความไม่พอใจ จากนั้นจึงย้ายไปจัดกิจกรรมบนสกายวอล์กหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร บริเวณทางเข้าสถานีรถไฟฟ้าสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ โดยตัวแทนองค์กรปลดเผด็จการเพื่อเสรีภาพรายหนึ่ง แต่งกายด้วยชุดนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย นำเทปกาวปิดชื่อโรงเรียน นั่งคุกเข่า โดยมีเยาวชนอีกรายนำกรรไกรเข้าไปตัดผม ในขณะที่เยาวชนชายอีกรายถือถาดบรรจุเนื้อหมูสดติดป้ายราคา กิโลกรัมละ 220 บาท ส่วนเยาวชนอีก 2 ราย รายหนึ่งแต่งกายชุดนางงามสีขาว อีกรายหนึ่งถือป้ายมีข้อความว่า ‘สรุป ผู้ชายหรือผู้หญิง’

ตัวแทนเยาวชนกล่าวว่า การที่พวกตนจัดกิจกรรมวันนี้เพื่อสื่อให้เห็นว่า ปัญหาในสังคมของเราตอนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง เราต้องการทำให้ประชาชนเห็น ได้ความรู้ในสิ่งที่เราถูกกระทำ ไม่ว่าจะเป็นการเหยียดเพศ การทำร้ายร่างกายนักเรียน การกดทับ อำนาจนิยม รวมถึงปัญหาเรื่องความกดดันจากพ่อแม่ นักกิจกรรมถูกทำร้าย อีกทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเนื้อหมูราคาถึง กก.ละ 220 บาท จึงขอเชิญชวนทุกคนร่วมเขียนจดหมายถึงรัฐบาล เพื่อเตรียมพับเป็นจรวดร่อนเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมาปัญหาไม่เคยถูกรับฟัง

Advertisement

“ในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ ขอให้ไปรวมตัวกันที่ถนนราชดำเนินเพื่อแสดงพลังให้ไปถึงจุดที่เรียกว่าประชาธิปไตยอย่างแท้จริง สำหรับจดหมายที่เขียนในวันนี้จะมีการรวบรวมไปพับจรวดร่อนเข้าทำเนียบต่อไป อาจภายในเดือนนี้หรือเดือนหน้า” ตัวแทนเยาวชนกล่าว

 

จากนั้นมีการชู 3 นิ้ว และร่วมกันเขียนจดหมายถึงรัฐบาล โดยตลอดกิจกรรมมีการร้องเพลง ‘อยากจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้’ โดยวงสามัญชน มีเนื้อหากล่าวถึงประเด็นรัฐสวัสดิการ เนื้อร้องตอนหนึ่งว่า

“อยากจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้
อยากจะข่มตานอนโดยไม่กังวล
อยากจะมีเวลาให้ได้ค้นหาตัวตน
ให้ฉันมีชีวิตที่กำหนดเอง
อยากจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้
อยากจะข่มตานอนโดยไม่กังวล
อยากให้รัฐบาลเห็นค่าของคน
เอาชนะความจนด้วยรัฐสวัสดิการ”

ทั้งนี้ สมาชิกวงสามัญชนเคยเปิดเผยที่มาของเพลงดังกล่าวว่า มาจากชีวิตจริงของตัวเองซึ่งมีความชอบในด้านกฎหมาย อยากเรียนนิติศาสตร์ แต่ด้วยความจำเป็นของครอบครัวจึงต้องเรียนกายภาพบำบัด โดยระหว่างเรียนตนต้องเล่นดนตรีกลางคืนไปด้วย จึงต้องการผลักดันรัฐบาลในด้านรัฐสวัสดิการ

ตัวแทนเยาวชนอีกรายกล่าวในกิจกรรมดังกล่าวว่า ปัญหาของนักเรียนที่เจอในโรงเรียนมีอยู่จริง มีนักเรียนต้องฆ่าตัวตายจากปัญหาเหล่านั้น เป็นต้นตอของคำพูดที่ว่า ‘การศึกษาฆ่าฉัน’

“มีเด็กกี่คนแล้วที่ต้องผูกคอตาย มีเด็กกี่คนแล้วที่ต้องสังเวยชีวิตให้การศึกษา เด็กคนหนึ่งต้องถูกกดดันจากความคาดหวัง ไม่ว่าจะจากครอบครัว สังคม ให้เข้ารับราชการเพื่อให้ได้สวัสดิการจากรัฐ รับใช้รัฐ เพื่อมีชีวิตที่ดี” ตัวแทนเยาวชนกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image