ตร.จะปรับแผนรับมืออย่างไร 17.00 น.วันนี้ นัดชุมนุมราชประสงค์อีก
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 16 ตุลาคม กลุ่มผู้ชุมนุมนัดรวมตัวกันอีกครั้งที่แยกราชประสงค์ เป็นกิจกรรมที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคมหลังการสลายชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล
ย้อนไปก่อนหน้านั้น ที่กลุ่มคณะราษฎร 2563 เคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล เมื่อเย็นวันที่ 14 ตุลาคม และปักหลักค้างคืนบริเวณโดยรอบ ต่อมาเวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 15 ตุลาคม นายอานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร แจ้งกับผู้ชุมนุมว่าจะพักค้างคืน และจะยุติชุมนุมในเวลา 06.00 น. โดยให้ผู้ชุมนุมไปพักผ่อน เพื่อจะไปยกระดับการชุมนุมสี่แยกราชประสงค์ เวลา 16.00 น.
แต่เมื่อเวลา 04.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯออกคำสั่งใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพฯ โดยหลักๆ คือห้ามชุมนุมหรือมั่วสุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หรือกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย และห้ามเสนอข่าว แพร่หลายสิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใด รวมตลอดทั้งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่มีข้อความอันอาจทําให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ากระชับพื้นที่ มีการปะทะกับผู้ชุมนุมกันเล็กน้อย จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าจับแกนนำรวม 23 คน ทั้งนายอานนท์ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน เจ้าหน้าที่ตามไปคุมตัว น.ส.ปนัสยา หรือ รุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล และนายณัฐชนน หรือณัฐ ไพโรจน์ ที่โรงแรมไอบิส ปายซอยรามบุตรี ถนนตานี เขตพระนคร กทม. แล้วนำตัวไปที่ บก.ตชด.ภ.1
ต่อมา ตำรวจนำตัวนายอานนท์ และนายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ ขึ้นเครื่องบินตำรวจ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ แกนนำหลายคนต้องนอนในเรือนจำทั้งนายพริษฐ์ น.ส.ปนัสยา และนายณัฐชนน เนื่องจากศาลจังหวัดธัญบุรีไม่ให้ประกันตัว รวมทั้งนายอานนท์ และนายประสิทธิ์ ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ก็ไม่ให้ประกันตัวเช่นกัน
ขณะที่บริเวณแยกราชประสงค์ ปรากฏว่า ตั้งแต่เวลา 15.00 น.เริ่มมีประชาชนเดินทางมาร่วมชุมนุม จากนั้นก็ทยอยมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามสกัดกั้น และประกาศเตือนถึงความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ก็ไม่อาจต้านทานมวลชนจำนวนมากได้ โดยผู้ชุมนุมทยอยเข้าไปรวมตัวกันเต็มแยกราชประสงค์ ต้องปิดการจราจรบริเวณโดยรอบ โดยมีนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง แกนนำคณะราษฎร ที่ไม่ถูกจับกุมเป็นแกนนำปราศรัยในตอนแรก ก่อนจะมีแกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอกมาร่วมปราศรัย โดยกลุ่มผู้ชุมนุมตะโกนเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออก และปล่อยตัวแกนนำที่ถูกจับกุมไป พร้อมชู 3 นิ้วเป็นระยะๆ
แม้ตำรวจประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงให้ยุติการชุมนุมในเวลา 18.00 น. แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับจากผู้ชุมนุม กลับยังมีประชาชนเข้ามาสมทบมากขึ้นเรื่อยๆ และร่วมกันเปิดแฟลชจากโทรศัพท์มือถือ พร้อมทั้งฟังแกนนำที่สลับกันขึ้นปราศรัยบนเวทีชั่วคราวไปเรื่อยๆ ขณะที่ฝนเริ่มโปรยปรายลงมา
กระทั่งแกนนำประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 22.00 น. พร้อมนัดมาชุมนุมกันอีกครั้งในเวลา 17.00 น.วันที่ 16 ตุลาคม ที่แยกราชประสงค์เช่นเดิม จากนั้นผู้ชุมนุมทยอยแยกย้ายกันเดินทางกลับ
ต่อมา พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. และพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงถึงการปฏิบัติหน้าที่ตำรวจในการดูแลผู้ชุมนุมที่แยกราชประสงค์ พร้อมเตือนว่าการชุมนุม รวมถึงการเผยแพร่ข้อมูลผ่านโซเชียลที่เข้าข่ายยุยงปลุกปั่นเป็นความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พนักงานสอบสวนเก็บพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป รวมถึงผู้ที่นำรถบรรทุกน้ำ รถขนอาหาร และรถเครื่องขยายเสียง เข้ามาในพื้นที่แยกประสงค์ด้วย
รอดูว่าช่วงเย็นวันนี้ ผู้ชุมนุมจะยังมาตามนัดเหมือนเดิมมากน้อยแค่ไหน และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะปรับแผนรับมืออย่างไร
