ปฏิรูปตัวเอง! มัลลิกา ชี้ พฤติกรรมเหิมเกริมเป็นความล้าหลัง ไม่ใช่’แนว’อนาคตของชาติ

เมื่อวันที่  16 ตุลาคม  นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน (Mallika Foundation) ระบุว่า สถานการณ์บ้านเมืองเวลานี้เชื่อว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีสามารถจัดการปัญหาได้ ขณะนี้สิ่งที่น่าห่วงมากกว่าวิกฤตทางการเมือง คือสถานการณ์เศรษฐกิจหลังโควิด-19 ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังระดมสรรพกำลังเพื่อพลิกฟื้นปัญหาปากท้องของประชาชนเนื่องจากเราเจอสามสถานการณ์วิกฤตระดับโลก คือสถานการณ์สงครามการค้าสถานการณ์ค่าเงินบาท และต่อด้วยสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ยอดส่งออกปี 2563 คาดว่าติดลบ -7% ส่วนปี 2564 คาดว่าจะเป็นบวก ทั้งนี้สถานการณ์ติดลบของประเทศเราก็เป็นสัญญาณดีมากกว่าหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย ดังนั้นในปี 2564 ประเทศเราจึงมีโอกาสมากกว่าหลายประเทศ

“ขณะนี้กระทรวงด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ระดมทีมทั้งภาครัฐ-เอกชนทำงานอย่างเข้มแข็งเพื่อกอบกู้สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศทั้งนี้ก็เพื่อบรรเทาแก้ไขปัญหาการส่งออกซึ่งจะกระทบกับปากท้องของประชาชนและการมีเงินในมือของประชาชน” นางมัลลิกากล่าว

นางมัลลิกา กล่าวว่า สถานการณ์ที่มีการปลุกปั่นขึ้นขณะนี้จนถึงขั้นเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันสำคัญของชาตินั้น คนที่ปลุกปั่นควรหันไปปฏิรูปตัวเองมากกว่าประการทั้งปวงเพราะพฤติการณ์ลอกเลียนแบบตอนเผาบ้านเผาเมืองแต่ลอกมาไม่ครบไม่สุด แต่กลับมีพฤติกรรมเหิมเกริม กักขฬะ ไร้มารยาทไม่มีสามัญสำนึกซึ่งคนไทยพึงมี พฤติกรรมเหิมเกริมไม่มีเหตุผลนั้นเป็นความล้าหลัง ไม่ใช่แนวอนาคตของชาติ เช่นนี้แล้วก็สมควรที่รัฐบาลจะกำกับโดยกฎหมายอย่างเข้มงวดเพราะสังคมยังต้องอยู่ร่วมกันอย่างเข้มแข็งสามัคคีกัน

“การเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างนั้นต้องต่างคนต่างเคารพไม่ใช่ให้อีกฝ่ายหนึ่งเคารพแต่อีกฝ่ายหนึ่งจะด่าใครแบบไหนอย่างไร้ขอบเขตก็ได้ ซึ่งแบบนี้ไม่ใช่ มันไม่เข้าท่า เราควรมีเวทีพบปะ แลกเปลี่ยนเสวนาหาทางออก เรามีเวทีสภา มีเวทีรัฐบาล เวทีเยาวชนและเวทีในส่วนองค์กรพัฒนาเอกชนและอื่นๆ อย่าไปสุดกู่เลยเดี๋ยวจะกลับไม่ได้” ประธานมูลนิธิมัลลิกา กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image