ตร.แจงสลายชุมนุม ยึดหลักสากล ยันไม่มีแก๊สน้ำตา-กระสุนยาง สารเคมีผสมน้ำไม่อันตราย

ตำรวจ แจง สลายการชุมนุมตามหลักสากล ยันไม่มี แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง ระบุสารเคมีผสมน้ำไม่มีอันตราย

เมื่อเวลา 22.20 น. วันที่ 16 ตุลาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) กองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) โดย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงความคืบหน้าการปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายสลายการชุมนุมเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา

โดย พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนได้บังคับใช้กฎหมายตามขั้นตอนเนื่องจากเป็นการชุมนุมที่มิชอบด้วยกฏหมาย มีการฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ที่ห้ามชุมนุมและมั่วสุมเกิน 5 คนขึ้นไป หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการยุยงปลุกปั่น โดยตำรวจได้ปฎิบัติการควบคุมฝูงชนตามหลักสากลอย่างเคร่งครัด ได้แจ้งเตือนทางวาจาหลายครั้ง ให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่กลุ่มผู้ชุมนุมฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ จึงมีความจำเป็นที่ต้องบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยต้องทำตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก มีหลักการใช้เครื่องมือควบคุมฝูงชนตามความจำเป็นเหมาะสมในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตำรวจใช้เพียงโล่ กระบอง ในการป้องกันตัวเท่านั้น และมีการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง เป็นการใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่เป็นสากลที่ทั่วโลกใช้กัน

ในเรื่องการใช้น้ำผสมสีเพื่อต้องการแยกระหว่างผู้ชุมนุม เพื่อใช้ในการดำเนินคดีในอนาคตยืนยันว่าเป็นสารที่ไม่ได้มีอันตรายแต่อย่างใด นอกจากนี้การใช้สารเคมีผสมน้ำเพื่อระงับยับยั้งกลุ่มผู้ชุมนุมให้ยุติ และล่าถอยออกไป ซึ่งสารเคมีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อผิวหนังให้เกิดอาการแสบร้อน เป็นเรื่องปกติสามารถใช้น้ำล้างเพื่อบรรเทาอาการได้ ยืนยันว่าเป็นสารที่ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด

ทั้งนี้ผลจากการปฎิบัติบังคับใช้กฎหมายตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาทั้งตอนที่ตำรวจและกลุ่มผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บบางส่วน ตนจึงขอขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดด้วย เนื่องจากเป็นภาพที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อยากให้เกิดขึ้น

Advertisement

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้แบ่งพื้นที่ปฏิบัติการออกเป็น 7 พื้นที่ คือ แยกราชประสงค์พื้นที่ส่วนกลาง ประตูน้ำราชดำริ แยกเฉลิมเผ่า แยกสารสินและถนนราชดำริ แยกชิดลม บนสกายวอล์ค และพื้นที่โดยรอบ ซึ่งจากปฏิบัติการดังกล่าวได้จับกุมแกนนำ และผู้ชุมนุม 7 ราย ขณะนี้ได้ส่งไปพนักงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1

นอกจากนี้เมื่อคืนที่ผ่านมา (15 ตุลาคม) ได้จับกุมเจ้าของรถเครื่องขยายเสียง พร้อมพวก 7 ราย และได้นำนำตัวส่งศาลแขวงปทุมวันเป็นที่เรียบร้อย

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินการของตำรวจในวันนี้ สามารถเข้าไปควบคุมพื้นที่ได้เรียบร้อยทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้ที่ถูกจับกลุ่มตัวไปทั้งหมด ยืนยันว่าการปฎิบัติการในวันนี้ไม่มีการใช้กระสุนยาง และไม่มีการยิงแก๊สน้ำตา แต่เป็นสารเคมีที่ใช้ตามมาตรฐานสากล

Advertisement

ฝากย้ำเตือนประชาชน ว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในสถานการณ์ร้ายแรง การขนรถเครื่องเสียง รถสุขา เข้ามาในพื้นที่รวมทั้งการชักชวนให้ผู้อื่นมาร่วมชุมนุมถือว่ามีความผิดกฏหมาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image