‘เวียงรัฐ’ ลั่นตัดสินใจถูก เปิดคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ พื้นที่ปลอดภัย รับม็อบถูกสลายชุมนุม

‘เวียงรัฐ’ เปิดบันทึก 16 ต.ค. ลั่น ตัดสินใจถูก เปิดคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ พื้นที่ปลอดภัยรับม็อบถูกสลายชุมนุม

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม รศ.เวียงรัฐ เนติโพธิ์ รองคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Viengrat.Nethipo. Oct.16.2020” ระบุถึงเหตุการณ์การเข้าสลายการชุมนุมคณะราษฎร 2563 ของเจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจ ที่สี่แยกปทุมวัน ระบุว่า กลับบ้านแล้วเพิ่งมาเห็นโพสต์นี้ ขอบันทึกเหตุการณ์ของคืนนี้ในส่วนที่ข้าพเจ้ามองเห็นดังนี้นะคะ

เบื้องต้นเลยต้องขอแก้ข่าวว่าไม่ได้พูดว่า “ได้รับคำสั่งจากอธิการบดี” แต่เมื่อข่าวออกไปแล้วก็มีการทวีตต่อๆ กันจนเกินกว่าจะแก้แล้ว ข้าพเจ้าไม่รู้จักท่านอธิการเป็นการส่วนตัว และไม่เคยได้รับคำสั่งจากท่าน บริบทตอนนั้นคือมีนักเรียนนักศึกษาหนีเข้ามาหลบในคณะรัฐศาสตร์เป็นจำนวนมาก และมีการตื่นตระหนก มีการวิ่ง มีการล้ม บาดเจ็บ เนื่องจากมีข่าวลือต่างๆ นานาว่า มีตำรวจปิดล้อมจุฬาฯไว้ มีตำรวจบุกเข้ามาใช้กระสุนยิงคนในจุฬาฯ มีการล้อมปราบ ทำให้ข้าพเจ้าต้องหาเครื่องเสียงและขึ้นยืนพูดว่า ที่นี่คือเซฟโซน ขอให้ทุกคนพักผ่อน เช็กข่าว รวมตัวกันอยู่ก่อน ระหว่างนั้นก็โทรถามท่านผู้ช่วยอธิการด้านกิจการนิสิตว่าจุฬาฯปลอดภัยหรือไม่ ทางผู้บริหารด้านกิจการนิสิตได้ประสานกับ รปภ.ของมหาวิทยาลัยรอบๆ และยืนยันว่าไม่มีเหตุร้ายแรง ที่นี่ปลอดภัย ข้าพเจ้าจึงเน้นย้ำว่า “ผู้บริหารมหาวิทยาลัยยืนยันว่าตำรวจไม่ได้บุกเข้ามา”

แน่นอนว่าเหตุการณ์วันนี้เป็นวันที่เลวร้ายที่สุดอีกวันหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย แต่เหตุการณ์เล็กๆ ในวันนี้ทำให้ข้าพเจ้าภูมิใจในการทำงานในจุฬาฯ ในคณะรัฐศาสตร์ และรับผิดชอบด้านกิจการนิสิต ดังจะขอเล่าต่อไปนี้

Advertisement

ตั้งแต่เมื่อวาน (15 ตุลา) ที่มีการชุมนุมที่ราชประสงค์ ทางคณะจุฬาฯ (นิสิตที่เป็นแกนนำของจุฬาฯ) ได้ประสานกับสโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ ว่าจากการประเมินสถานการณ์น่าจะมีเหตุรุนแรง เขาขอเลือกที่จะเปิดพื้นที่จุฬาฯให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย โดยประสานกับองค์กรบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ (อบจ.) และมหาวิทยาลัยให้เปิดพื้นที่มหาวิทยาลัยเป็นเซฟโซน จึงได้จัดกิจกรรมเล็กๆ ที่สนามหญ้าหน้าหอประชุมใหญ่ ตอน 17.00 น. กล่าวปราศรัยให้กำลังใจคนที่ไปร่วมที่ราชประสงค์ เมื่อข้าพเจ้ากลับมาจากการสังเกตการณ์ที่ราชประสงค์พวกเขาก็ยังปักหลัก เล่นดนตรี คุยปราศรัยสบายๆ ที่สนามหญ้า บรรยากาศชิลๆ มีคนเหลืออยู่ไม่ถึง 50 คน ข้าพเจ้ากับ อ.พวงทอง เลยแนะนำแกนนำว่ากลับเถอะ พวกเขาบอกว่าไม่กลับจนกว่าราชประสงค์จะเลิก เขาจึงรอจนมีการยุติการชุมนุมตอน 22.00 น. แล้วจึงกลับกัน

ความคิดพื้นที่ปลอดภัยไม่ได้ใช้จริง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี วันนี้พวกเขาก็ซักซ้อมแบบเดิม แต่คิดว่าไม่ได้ใช้แน่ๆ ข้าพเจ้าเองก็ไปสังเกตการณ์ชุมนุมเห็นแต่นักเรียนเต็มไปหมด จึงคิดในใจว่าไม่น่ามีการใช้ความรุนแรง จึงชวน อ.สิริพรรณ ที่ไปด้วยกันไปกินส้มตำ พออ่านทวิตเตอร์ว่า มีการใช้น้ำฉีดสลายผู้ชุมนุม ข้าพเจ้าจึงชวนกันเดินมาดูที่ถนนพญาไท ระหว่างนั้นมีผู้ชุมนุมวิ่งแตกตื่น หกล้ม เราจึงตะโกนเข้าไปจุฬาฯได้ เข้าไปจุฬาฯได้ หลายคนถามว่าไปทางไหน และมีการ์ดของการชุมนุมมาตะโกนบอกว่าไม่มีอะไร ไม่มีอะไร ตำรวจถอยแล้วกลับเข้าชุมนุมได้ ตอนนี้มีคนที่กลับเข้าไปชุมนุมเยอะมาก และมีคนที่เดินออกมาทางจุฬาฯส่วนหนึ่ง

ระหว่างทางจะมีนิสิตอาสาฯ คอยบอกทาง แนะนำประตูที่เปิดให้คนเข้าไปหลบ มีคนคอยบอกว่าห้องน้ำอยู่ไหน ไปรวมกันที่ลานจุลจักรพงษ์ได้ (ลานที่นิสิตใช้ทำกิจกรรม ใกล้ศาลาพระเกี้ยว) หรือจะไปที่รัฐศาสตร์ก็ได้ ข้าพเจ้าก็ช่วยตะโกนบอกว่าไปรัฐศาสตร์ออกอังรี และเดินไป MRT สีลม หรือ BTS ศาลาแดงได้ ค่อยๆ ไปไม่มีอันตราย ระหว่างนั้นมีทั้งคนที่เดิน มีทั้งคนที่ขอพักตรงลานจักรพงษ์ และมีคนที่สับสนถามทาง ข้าพเจ้าจึงมุ่งหน้ามาคณะรัฐศาสตร์

Advertisement

พอมาถึงบริเวณคณะก็มีคนหลบอยู่ประปราย มีลูกศิษย์ทักทายส่งเสียงเฮฮา ข้าพเจ้าก็ไปทัก แล้วมีธุระด่วนข้าพเจ้าต้องขึ้นไปเอาเอกสารที่ห้องทำงานชั้น 8 เมื่อไปถึงข้างบนได้สัก 10 นาที (ไม่ได้ดูนาฬิกาเลยว่ากี่โมง) มีคนวิ่งแตกตื่นมาทางรัฐศาสตร์ ส่งเสียงโห่ร้องด้วยความตระหนก ความโกรธ ข้าพเจ้าหยิบโทรศัพท์มาดู ปรากฏว่าคนโทรมาเพียบ เนื่องจากข้าพเจ้าเป็นรองคณบดีด้านกิจการนิสิต เขารอการตัดสินใจของข้าพเจ้า ในจำนวนนั้นมี อ.ประจักษ์ จากธรรมศาสตร์ที่เดินมาที่คณะด้วยแล้วหาเราไม่เจอ

เมื่อลงมาเห็นว่าคนมาที่คณะเยอะมากๆ ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษา นิสิตในจุฬาฯ เราก็ช่วยกันตะโกนว่าที่นี่ปลอดภัย ที่นี่ปลอดภัย โปรดอย่าวิ่ง ไม่ต้องวิ่ง แล้วขอให้ทางเจ้าหน้าที่คณะหาลำโพงกับไมค์มาให้ เมื่อได้แล้วข้าพเจ้าก็ขึ้นไปยืนพูดบนที่นั่งหน้าคณะ แต่เมื่อจับไมค์จะมีคนให้ข่าวต่างๆ นานา จึงเป็นที่มาที่ข้าพเจ้ายืนยันว่าที่นี่ปลอดภัย ที่นี่ปลอดภัย ขอให้ดื่มน้ำ พักผ่อน เช็กข่าว แล้วเดี๋ยวค่อยว่ากันว่าจะไปไหนต่อ

ข้าพเจ้าโชคดีที่มีกลุ่มนิสิตที่น่ารัก และเก่งมากๆ คือสโมสรนิสิตคณะรัฐศาสตร์ นิสิตคณะจุฬา นิสิตจาก อบจ. และยังมีเพื่อนเร่วมงานที่น่ารัก อ.เปี๊ยก อ.หยิน อ.จอน มม. ปป. และมี อ.ประจักษ์ (ที่เราแซวกันว่าเป็น visiting scholar คืนนี้) กับน้องเฟิร์สมาร่วม ทุกคนทำงานขันแข็ง เพราะเรากำลังเจอกับคนที่หนีมาหลบด้วยความตระหนก เปียกฝน โกรธ หิวน้ำ กลัว จำนวนหลายร้อนคน รวมเข้าออกแล้วอาจจะถึงพันกว่าคนได้

ระหว่างที่ข้าพเจ้าขึ้นพูดให้ความมั่นใจ มี อ.ประจักษ์มาช่วยเป็นช่วงๆ ทีมงานที่เล่ามาก็แปรคณะรัฐศาสตร์ให้เป็นที่พักพิงหลบภัยอย่างสมบูรณ์ในเวลา 3 ทุ่ม ระหว่างนั้นท่านรองคณบดีที่ดูแลด้านอาคารสถานที่โทรมาบอกว่าตึกหนึ่งตึกสองให้เปิดห้องเรียนให้หมด ให้เปิดแอร์ใครจะนอนก็ได้ ห้องน้ำเปิดตลอด 24 ชั่วโมง เราก็ได้มุมพยาบาล ที่มีนิสิตแพทย์มาช่วย มีมุมแจกน้ำดื่ม และอาหาร มีเสื้อผ้าแห้งขนลงมาเป็นลังๆ (เสื้อผ้ากิจกรรมที่รอขายของนิสิตในคณะ) และเมื่อมีนิสิตปริญญาโทเลิกเรียนตอน 21.00 เราก็ได้ขอให้รับน้องๆ กลับบ้าน ปรากฏว่าพี่ๆ ใจดี บอกเส้นทางว่าไปไหนบ้าง ช่วยไปได้หลายสิบคน หลังจากนั้นมีคนมาบอกว่าทางเดินไปบีทีเอสศาลาแดงปลอดภัย (แม้ในทวิตเตอร์จะมีข่าวว่ามีคนดักตี มีตำรวจดักจับ) เราจึงจัดกลุ่มเป็นสายๆ ให้ทยอยกันเดินเท้ากลับไปขึ้นรถไฟกลับบ้าน โดยแต่ละกลุ่มจะมีคนที่รู้ทางนำ ในที่สุดปฏิบัติที่สำคัญคือส่งคนกลับบ้าน ด้วยวิธีหาอาสารถส่วนตัว และคนนำทางไปบีทีเอส

ระหว่างนั้นมีการเรียกรถพยาบาลมารับคนที่ล้มลง 2 คน เหมือนเป็นลม แต่ตอนประถมพยาบาลมีอาการหนักพอสมควร ข้าพเจ้าหวังว่าน้องทั้งสองจะปลอดภัย
แล้วคนที่ไม่มีที่พักล่ะ น้องเฟิร์สได้ใช้แอพพ์หาที่พักฟรี มีคนใจดีให้ที่พักฟรี และเอารถมารับ ส่งคนไปได้ 2 ชุดใหญ่ๆ รวมกันน่าจะยี่สิบกว่าคน

จนในที่สุดมีคนรู้ว่าที่นี่มีคนรอความช่วยเหลือ มีคนใจงามขับรถ (แพงๆ) มารับ มี อ.ท่านหนึ่งจากคณะอื่นเอารถเบนซ์มาตระเวนรับส่งน้องๆ หลายเที่ยว ให้ภรรยายืนรอรวบรวมน้องๆ แล้วขนไปกลับมา จนสุดท้ายพาคนอีก 4-5 คนไปส่งรังสิตทิศทางบ้าน อ.ท่านนั้น มี น.ศ.ธรรมศาสตร์ได้กลับที่พักอย่างปลอดภัย และมีน้ำดื่มมาลงที่คณะเป็นจำนวนมหาศาล คนที่เป็นแรงสำคัญในการขนน้ำ คือนิสิตสโมสร และชมรมฟุตบอลของคณะรัฐศาสตร์ (ช่วงแรกเขาไม่เปิดประตูให้รถเข้า เนื่องจากเกรงว่าจะมีผู้แอบแฝงเข้ามา จึงต้องวิ่งตากฝนไปขนมาจากประตู)

เราจึงเรียกคนที่พักผ่อนอยู่ในห้องเรียนต่างๆ ให้ออกมา เพื่อกลับบ้านจะได้ปลอดภัย ถ้าดึกกว่านี้เราไม่รู้ว่าระหว่างเดินทางจะเป็นอย่างไร จนเสร็จสิ้นภารกิจเวลาประมาณ 23.00 น. ขอบคุณอาสาสมัครทุกๆ คน ขอบคุณผู้บริหารคณะและมหาวิทยาลัยที่ให้ข่าวที่ยืนยันได้ ขอบคุณ รปภ.มหาวิทยาลัย ทำหน้าที่สมกับ “ร ป ภ” จริงๆ

บทเรียนที่ได้จากงานนี้และคิดว่าข้าพเจ้าโชคดีที่ตัดสินใจถูกคือ ต้องไม่พูดข่าวลือเลย ทั้งๆ ที่ข่าวนั้นส่งมาตลอดเวลาว่าให้ระวัง มีการใช้กระสุนยางยิงมาในมหาวิทยาลัย มีคนบาดเจ็บ และข่าวอื่นๆ อีกมากมาย

ผ่านไปอีกหนึ่งคืนสำหรับการต่อสู้เพื่อโลกที่ดีกว่าของพวกเขา หลายคนถูกจำกัดเสรีภาพ หลายคนบาดเจ็บ หลายคนตามหาน้อง ตามหาเพื่อน ตามหาพี่

ขอประณามและวิงวอนเจ้าหน้าที่รัฐหยุดใช้ความรุนแรงและคุกคามประชาชน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image