09.00 INDEX หนทาง เลือกแล้ว ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา
สภาพบ้านเมืองภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน”ขั้นร้ายแรง”นับแต่วันที่ 15 ตุลาคมเป็นต้นมา คล้ายกับเป็นสถานการณ์ที่เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535
หากมองจากด้านของ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา และ พรรคประชาธิปัตย์ ที่จำเป็นต้องเลือก
นั่นก็คือจะเลือกอย่างไหน ระหว่างการอยู่ร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ร่วมกับ พรรคพลังประชารัฐ หรือว่าตีตัวออก มาอยู่ต่างหาก
อย่างไรก็ตาม การเรียกประชุมครม.นัดพิเศษในวันที่ 16 ตุลาคมก็แจ่มชัดเป็นอย่างยิ่งเมื่อมีภาพการแถลงข่าวของ พล.อ.ประ ยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
โดยมีภาพของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ภาพของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ภาพของ นายวราวุธ ศิลปอาชา พรรคชาติไทยพัฒนา อยู่เคียงข้าง
สะท้อนให้เห็นว่า พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ตัดสินใจอย่างไรในทางการเมือง
นั่นเท่ากับยืนยันว่า แม้ในตอนค่ำของวันที่ 16 ตุลาคม จะมีการดำ เนินการสลายการชุมนุมอย่างรุนแรง ณ แยกปทุมวัน โดยตำรวจชุด ปราบจลาจลเต็มพิกัด
แม้จะมีเสียงเรียกร้องที่ดังขึ้นเป็นลำดับให้มีการเปิดประชุมรัฐ สภาสมัยวิสามัญเพื่อแก้ไขและคลี่คลายปัญหา
ประสานเข้ากับการส่งสารจากพรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้พรรค ภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา พิจารณาว่าควร จะอยู่ร่วมรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่
โดยยกเอาสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันจากเหตุการร่วมอยู่ในรัฐ บาลของ พล.อ.สุจินดา คราประยูร เมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 มาเป็นเครื่องเตือนใจก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไร
เพราะทุกอย่างดูเหมือนจะล่าช้าและสายเกินไปเสียแล้ว
เพราะพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ล้วนมั่นใจว่าตนยืนอยู่กับฝ่ายที่จะต้องกำชัยอย่างแน่นอน
จากบทสรุปของพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย พัฒนา ยากที่จะมองเห็นนักเรียนนิสิตนักศึกษาจะสามารถกำชัยได้
เนื่องจากอำนาจอยู่ในมือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ไม่ว่าอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าอำนาจจากการสนับสนุนของรัฐราชการรวมศูนย์ที่มีกองทัพเป็นฐานสำคัญ