คนส.เดินเท้าจาก มธ.สู่ทำเนียบรัฐบาล จ่อยื่น 1,118 ชื่อพร้อมแถลงการณ์ จี้หยุด ‘ขจัดผู้เห็นต่าง’

คนส.เดินเท้าจาก มธ.สู่ทำเนียบรัฐบาล จ่อยื่น 1,118 ชื่อพร้อมแถลงการณ์ จี้หยุด ‘ขจัดผู้เห็นต่าง’

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม เวลาประมาณ 08.00 น. เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง หรือ คนส. นัดหมายเดินเท้าจากลานปรีดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพื่อยื่นแถลงการณ์เรื่อง ‘หยุดสลายการชุมนุมและขจัดผู้เห็นต่าง สร้าทางออกให้ประเทศไทย’ นำโดย รศ.ดร.อนุสรณ์ อุณโณ คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์, เคท ครั้งพิบูลย์ อาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และ ผศ.ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ เป็นต้น ใช้เส้นทางถนนราชดำเนิน ผ่านหน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แล้วข้ามถนนบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สู่หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา แล้วเดินเท้าต่อไปกระทั่งถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล เวลาประมาณ 09.30 น.

เนื้อหาในแถลงการณ์มีดังนี้

การชุมนุมของนักเรียนนิสิตนักศึกษารวมถึงประชาชนตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยมีปัญหาหลายด้านที่ซับซ้อนและโยงใยกันอย่างแน่นหนา จำเป็นจะต้องได้รับการแก้ไขในระดับรากฐาน และกลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้เสนอแนวทางแก้ไขมาโดยลำดับ บนฐานของข้อเท็จจริง หลักการ และเหตุผล โดยมีผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นตัวตั้ง อีกทั้งยังเป็นไปอย่างสงบและปราศจากอาวุธ ทว่ารัฐบาลไม่เพียงแต่ไม่รับข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุมไปพิจารณา หากแต่ยังขัดขวางในลักษณะต่างๆ ทั้งการตั้งข้อหาและจับกุมคุมขังแกนนำและผู้เข้าร่วม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงและการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมคืนวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ที่ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บและสถานการณ์บานปลาย ไม่มีแนวโน้มจะคลี่คลายลงแต่อย่างใด

Advertisement

ทั้งนี้ ก็เพราะว่าปัญหาที่ประเทศไทยประสบเป็นผลมาจากความเหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรม กลุ่มคนที่มีความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นชาติสกุล เชื้อชาติ ศาสนา อุดมการณ์ อาชีพ เพศ ภูมิลำเนา ฯลฯ ไม่ได้รับการจัดสรรประโยชน์ สิทธิ และอำนาจกันอย่างเท่าเทียม จะแก้ปัญหาอย่างแท้จริงได้ก็ต้องเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้แสดงออกและต่อรองกันอย่างเสมอหน้า ไม่ใช่โดยการปกปิดหรือบิดเบือนผ่านการหว่านล้อมกล่อมเกลา หรือโดยการใช้กำลังเข้ากดปราบหากไม่สยบยอม ดังที่เกิดขึ้นกับกลุ่มผู้เห็นต่างตั้งแต่ต้นทศวรรษ 2550 เป็นต้นมา

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) พร้อมกับนักวิชาการรวมถึงประชาชนที่มีรายชื่อแนบท้ายจำนวน 1,118 รายชื่อ จึงขอแสดงจุดยืนและข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลดังนี้

1.ขอประณามการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมของนักเรียนนิสิตนักศึกษาและประชาชนบริเวณแยกปทุมวันคืนวันที่ 16 ตุลาคม 2563 เพราะเป็นการจัดการกับการชุมนุมที่ไม่เป็นไปตามหลักการและขั้นตอนที่เป็นสากล และเป็นการใช้กำลังที่ไม่ได้สัดส่วนหรือเกินกว่าเหตุ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้มีอาวุธ ไม่ได้มีพฤติการณ์รุนแรง และจำนวนมากเป็นเยาวชน รัฐบาลจะต้องยุติการสลายการชุมนุมและรับผิดชอบต่อความผิดพลาดนี้

2.รัฐบาลต้องยุติการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการขจัดผู้เห็นต่าง ต้องยกเลิกการตั้งข้อหาและต้องปล่อยตัวผู้ชุมนุมทุกคนอย่างไม่มีเงื่อนไข เพราะผู้ชุมนุมได้ใช้สิทธิตามที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญและกติการะหว่างประเทศที่ประเทศไทยลงสัตยาบัน ต้องยกเลิกการใช้กฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เอาผิดผู้แสดงความเห็นต่างหรือวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล รวมถึงต้องยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงและการบังคับใช้กฎหมายที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชนอย่างไม่สมควรแก่เหตุ

3.รัฐบาลต้องรับข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุมไปพิจารณาอย่างจริงจัง ทั้งการให้นายกรัฐมนตรีลาออก การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตย โดยจัดตั้งคณะกรรมการศึกษาและให้ข้อเสนอแนะที่มาจากตัวแทนฝ่ายต่างๆ ในภาควิชาการ ประชาชน และนักเรียนนิสิตนักศึกษา เพราะปราศจากการเขียนกติกาสูงสุดที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น และปราศจากการจัดระเบียบอำนาจและประโยชน์ในสังคมที่เป็นธรรมกับทุกคน โอกาสที่ประเทศไทยจะพ้นจากวิกฤตที่ดำเนินมาอย่างยืดเยื้อยาวนานได้นั้นแทบจะไม่มี

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.)
20 ตุลาคม 2563

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

คนส. นัดหมายเดินเท้าไปทำเนียบ วันพรุ่งนี้ จ่อยื่นแถลงการณ์หยุดสลายการชุมนุม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image