นอกเครื่องแบบแน่น ‘ม.ราม’ เลือกตั้ง ‘อธิการบดี’ คนใหม่ น.ศ.-บุคลากรแห่ลงคะแนน-ยืนจับตาหน้าคูหา
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากการแถลงนโยบายของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นอธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง ต่อคณาจารย์ ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และนักศึกษา เมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา
เวลา 14.00 น. ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก มีการจัดการเลือกตั้งอธิการบดี ประจำปี 2563 โดยการใช้สิทธิลงคะแนนหยั่งเสียงสรรหาอธิการบดีของ ม.รามคำแหง มีการกระจายหน่วยลงคะแนนเป็น 2 จุด ได้แก่ 1.ส่วนกลาง ที่ ม.รามคำแหง วิทยาเขตบางนา และหัวหมาก 2.ส่วนภูมิภาค สาขาวิทยบริการฯ ทั้ง 23 จังหวัด โดยสถานที่ลงคะแนนหยั่งเสียงส่วนกลางที่วิทยาเขตบางนา นักศึกษาชั้นปีที่ 1 และบุคลากร ร่วมลงคะแนนหยั่งเสียงระหว่างเวลา 09.00-12.00 น. และเวลา 13.00-16.30 น. ที่หน่วยหยั่งเสียง ม.รามคำแหง หัวหมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก มีการติดป้ายหาเสียงรอบมหาวิทยาลัย และมีการแบ่งเต็นท์หน่วยลงคะแนนตามสาย ได้แก่ สายคณาจารย์ ข้าราชการ บุคลากร ลูกจ้าง ที่ลานพ่อขุน และสายนักศึกษา แบ่งตามระดับปริญญา และระดับชั้นปี กระจายรอบมหาวิทยาลัย
เวลา 14.30 น. บรรยากาศโดยทั่วไปเป็นไปอย่างคึกคัก มีนักศึกษา คณาจารย์ และบุคลากรของมหาวิทยาลัยรามคำแหงเดินทางร่วมใช้สิทธิเลือกตั้งอธิการบดีคนใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยวัยรุ่นบางส่วนจับกลุ่มพูดคุยกันบริเวณหน่วยลงคะแนน และใต้ตึกคณะต่างๆ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงนอกเครื่องแบบจำนวนมากกระจายสังเกตการณ์ที่หน่วยเลือกตั้งและตามคณะต่างๆ รอบมหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ กลุ่มลูกพ่อขุนฯโค่นล้มเผด็จการ ได้ประกาศผ่านเพจเฟซบุ๊กก่อนวันเลือกตั้ง เชิญชวนนักศึกษารามคำแหงมาใช้สิทธิเลือกตั้ง และร่วมสังเกตการณ์ พูดคุย จับตาการเลือกตั้งอธิการบดี ที่ลานหน้าอาคารศิลาบาตร SBB เพื่อร่วมส่งท้ายอธิการบดีคนเก่าและต้อนรับคนใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีนักศึกษานั่งจับกลุ่มใต้อาคารศิลาบาตรเป็นจำนวนมากเนื่องจากฝนตก ทั้งนี้ ยังมีการประกาศผ่านเสียงตามสายเป็นระยะจากหอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการเลือกตั้งอธิการบดี ไม่อนุญาตให้ตั้งเวทีอภิปรายใดๆ โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และขอความร่วมมือผู้ลงคะแนนเสียงให้สวมหน้ากากอนามัย ตรวจวัดไข้ และเว้นระยะห่างระหว่างเข้าลงคะแนนเสียงที่คูหา
สำหรับผู้สมัครอธิการบดี ม.รามคำแหง มีการขอใบสมัคร จำนวน 13 ราย แต่มีผู้ยื่นใบสมัครเพียง 4 คน และถูกตัดสิทธิ 1 คน จึงเหลือผู้ท้าชิงตำแหน่งทั้งสิ้น 3 คน ได้แก่ ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ หมายเลข 1, ผศ.ดร.สถาพร สระมาลีย์ หมายเลข 2 และ รศ.ดร.ปรัชญา ชุ่มนาเสียว หมายเลข 3
โดยหมายเลข 1 ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ มีนโยบาย “รามต้องเปลี่ยน” เข้าใจ เข้าถึง เป็นธรรม นำพารามสู่อนาคตที่มั่นคง อาทิ สมัครเรียนรามได้ตลอดทั้งปี เพื่อการเรียนรู้ได้ตามอัธยาศัย, เพิ่มแสงสว่างในซุ้ม เพิ่มห้องอ่านหนังสือ, เพิ่มการสอบ e-testing, เพิ่มจำนวนเงินทุนการศึกษาทุกประเภท เช่น ทุนเรียนดี ทุนส่งเสริมการศึกษา ทุนกิจกรรมไม่จำกัดจำนวนทุน ทั้งส่วนกลางและสาขาวิทยบริการ ฯลฯ
หมายเลข 2 ผศ.ดร.สถาพร สระมาลีย์ เป็นอาจารย์จากคณะนิติศาสตร์ รามคำแหง มีสโลแกน ทำได้ไว ทำได้จริง โดยทุกนโยบายยืนยันว่าทำได้จริง ทำทันที มีนโยบายบุตรบุคลากรได้สิทธิเรียนสาธิตทุกคน, ขึ้นค่าคุมสอบ กลับไปเหมือนเดิม, ฝ่ายข้าราชการและเจ้าหน้าที่ มีวารสารตีพิมพ์บทความของอาจารย์ทุกคน, จ่ายเต็ม 1.7-1.5 ตามอัตราถือจ่าย
และหมายเลข 3 รศ.ดร.ปรัชญา ชุ่มนาเสียว นโยบายเพราะเรียนจบรามจึงเข้าใจราม เน้นสร้างบัณฑิตเจนใหม่ถูกใจตลาดแรงงาน มีการปรับการเรียนรูปแบบใหม่ เก็บหน่วยกิตครบขอจบได้ทันที, ทุน กยศ.ให้ต่อเนื่อง 4 ปี ไม่จำกัดหน่วยกิต, สร้างสรรค์ตลาดวิชา ยกระดับสาขาวิทยบริการฯ พัฒนาระบบการสอน เพิ่มสวัสดิการบุคลากร และปรับการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับเทคโนโลยี
ทั้งนี้ จะปิดการลงคะแนนเลือกตั้งอธิการบดี ม.รามคำแหง ในเวลา 16.30 น.
