อายัดตัว ‘รุ้ง-เพนกวิน’ ณัฐชนน เท้าเปล่าชูสามนิ้วออกจากเรือนจำ ลั่นเดินหน้าสู้ ไม่ทิ้งมวลชน

อายัดตัว ‘รุ้ง-เพนกวิน’ ณัฐชนน ใส่ขาเทียมเท้าเปล่าชูสามนิ้ว ลั่นเดินหน้าสู้ ไม่ทิ้งมวลชน

เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 20 ตุลาคม ที่เรือนจำธัญบุรี ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัว 3 ผู้ต้องหาแกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ประกอบด้วยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง และนายณัฐชนน ไพโรจน์ โดยจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ชนะสงคราม ได้ทำการอายัติตัว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ไปที่ตชด.ภ.1 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีต่อในข้อหา ม.116 จากการปราศรัยในการชุมนุม ยุยงปลุกปั่น จากการ ชุมนุม

จากนั้นเวลา 15.00 น.เจ้าหน้าที่เรือนจำธัญบุรี ได้ปล่อยตัว นายณัฐชนน ไพโรจน์ แกนนำกลุ่มธรรมศาสตร์เพื่อการชุมนุม ประธานสหภาพนักเรียนนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) เดินออกจากเรือนจำธัญบุรี สภาพนุ่งกางเกงขาสั้น สวมเสื้อยืด ขาขวาใส่ขาเทียมพร้อมชูสามนิ้วเดินออกมาหน้าเรือนจำ นายณัฐชนน กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่มารอรายงานข่าวว่า ทำไมผมถึงอยู่ในสภาพนี้เนื่องจาก ขณะถูกจับกุมอยู่ในชุดนี้เข้ามายังไงก็ออกไปอย่างงั้น ถูกจับประมาณแปดโมงไม่ใส่เสื้อกางเกง รองเท้า การปฏิบัติของตำรวจจับอย่างที่เห็นในไลฟ์สด ตำรวจอ่านหมายจับก่อนนำมาคุมตัวขังที่ ตชด.ภาค 1 ขณะนั้นไม่ได้ใส่ขาเทียมเจ้าหน้าที่เอาใส่รถนั่งวิลแชร์ขึ้นรถ

นายณัฐชนน กล่าวว่า ตราบใดที่เพื่อนยังสู้อยู่ผมก็ยังสู้ ขณะที่คุมตัวอยู่ในเรือนจำ 5-6 วันพ่อแม่พี่น้องไม่ต้องเป็นห่วงเพราะว่าข้างในเรือนจำผู้ต้องขังหลายคนเป็นพี่น้องเราทั้งนั้นเขาเป็นผู้ถูกกดขี่เหมือนกับพวกเรา บางคนไม่ได้รับความยุติธรรม บางคนถูกใส่ร้าย บางคนมาอยู่ในคุกเพราะความไม่เป็นธรรมของเจ้าหน้าที่บางคน พอเข้าไปเขารู้ว่าเราเป็นนักโทษคดีการเมือง เขาก็ดูแลเราอย่างดีเข้าใจว่า เราเป็นลูกเป็นหลานเป็นผู้ร่วมอุดมการณ์ข้างในนั้น มีแต่เพื่อนเราที่รักการปฏิวัติตอนออกมาทุกคนชูสามนิ้วให้จนออกมาถึงหน้าประตู ขณะอยู่ในเรือนจำนั้น รุ้ง เพนกวิน ถูกแยกไม่ได้เจอกันเนื่องจากเป็นคู่คดีกันไม่อนุญาตให้คู่คดีอยู่ร่วมห้องจะเจอกันบางก็เวลามีทนายมาพบพร้อมกันก็มีโอกาสเจอหน้ากัน

“พอเราเข้าไปด้านในนักโทษที่รู้ว่าเราเป็นนักโทษคดีการเมืองทุกคนดูแลเราอย่างดี ข้างในมีแต่เพื่อนเราที่รักการปฏิวัติ ตนเองอยู่ในสุดและบนสุดของเรือนจำ ตอนที่ตนเองออกมาทุกคนชูสามนิ้วให้จนตนเองถึงหน้าประตู ทุกคนดูแลเราอย่างดี ตลอดเวลาตนเองและแพนกวินเจอกันบางครั้ง ตอนที่ทนายเรียกเดินทางมา มีโอกาสได้เจอหน้ากันบ้างเล็กน้อย ที่ผ่านมาเหตุการณ์ต่างๆไม่เคยทำให้เสียกำลังใจแต่นี่คือส่วนหนึ่งของการต่อสู้และเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ที่รัฐใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมกับนักเคลื่อนไหวทางการเมือง รัฐพยายามปิดปากเรา ในวันที่เราอยู่ในคุกเราดีใจมากที่ทุกอย่างไม่ได้หยุดยิ่งมีกำลังใจมาก รุ้งและแพนกวินเข้าใจว่าสิ่งที่โดยไม่สิ่งที่แปลก ตนเองขอเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำหรือมวลชนที่ถูกยัดคดีที่ไปชุมนุม การชุมนุมเป็นสิทธิเสรีภาพ ดังนั้นการไปชุมนุมของทุกคนเป็นสิทธิ์ไม่ควรถูกจับหรือดำเนินคดีใดๆก็ตาม หลังจากนี้ตนเองจะไปร่วมชุมนุมอย่างแน่นอน ตนเองทิ้งเพื่อน และทิ้งมวลชนที่คาดหวังกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ได้”

Advertisement

“พวกเรายอมเสียสละหากขบวนการยังเดินต่อไปได้พวกเราคดิว่ามันคุ้ม และขณะที่ถูกคุมตัวในเรือนจำเราไม่ทราบการเคลื่อนไหวจากภายนอกเท่าไร”

นายณัฐชนน กล่าวว่า เรากำลังอาจเห็นเส้นชัยอยู่ข้างหน้าทราบว่า มีการประชุมวิสามัญถกแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไปก็ได้นั่นเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ของทุกคนและร่วมกันสู้ต่อไป ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตามคุณรักประชาธิปไตย อยากเห็นประชาธิปไตยครั้งนี้เป็นประวัติศาสตร์ที่ต้องร่วมกันสู้

นายณัฐชนน กล่าวอีกว่า จริง ๆ แล้วข้อหาเรียกทำให้เราไปสู่ประชาธิปไตยต้องอธิบายว่าข้อ 1 เราต้องจัดการกับคณะคสช.ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นตัวครม.ก็ดีสว.ก็ดี องคกรอิสระก็ดีและอื่นทีมาจากการแต่งตั้งของคสช.เราจำเป็นต้องล้างกลุ่มนี้ออกให้หมดเพราะกลุ่มนี้เป็นกลุ่มผลพวงที่มาจากการสืบทอดอำนาจของเหล่าบรรดาเผด็จการข้อ 2 การแก้ไขรัฐธรรมนูญปัจจุบันเราได้เห็นปัญหาอยู่รัฐธรรมนูญของเรามีปัญหาปิดล็อกรัฐธรรมนูญมาเป็นเวลานานและรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้ ร่างโดยเผด็จการและใช้เพื่อเอื้อประโยชน์ให้เผด็จการดังนั้นหากเรายังใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้อยู่ไม่มีทางที่ประเทศเราจะเป็นประชาธิปไตยได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image