‘ณัฐชนน’ ขึ้นเวที กราบหัวใจราษฎร ‘ชินวัตร’ บอกไม่เข็ด ร้อยหมายค่อยว่ากัน
วันที่ 23 ตุลาคม ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ภาคีนิรนามมีการจัดกิจกรรม “นอนแคมป์ไม่นอนคุก” เพื่อกดดันเรียกร้องให้มีการปล่อยบุคคลที่ถูกจับกุมตัวไว้ในเรือนจำ โดยมีการผลัดกันปราศรัยอย่างต่อเนื่อง
เวลา 20.40 น. นายณัฐชนน ไพโรจน์ หนึ่งในแกนนำกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเราเหนื่อยไม่เท่ากับการที่มีประยุทธ์อยู่ 6 ปี ไม่เหนื่อยเท่ากับการที่มีรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ตนถูกจับพร้อม เพนกวินและรุ้ง ก่อนจะพูดอะไรต้องขอบคุณประชาชนทำให้ตนได้ออกมา เพนกวินและรุ้งบอกว่าไม่ต้องห่วง พวกเขาอยู่ได้ แม้พวกเราส่วนหนึ่งจะถูกจับ แต่พี่น้องราษฎรทุกคนจะทำให้ประชาธิปไตยเต็มใบ จะสู้ต่อ จะยืนหยัดในอุดมการณ์ต่อไป ขอให้รู้ว่าพวกเราตื่นแล้ว
“พวกเราต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ทำไมพวกเราถึงต้องเจ็บตัวตลอด นี่คือการปกครองแบบเผด็จการ อยากถามประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าคนที่เสียภาษีให้คือใคร ตอนเลือกตั้ง เพื่อนเรารณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ นอกจากเนื้อหาจะไม่เป็นธรรมแล้ว วันนี้เราจำเป็นต้องเปลี่ยน รัฐบาลก็ต้องไล่เขาออก เพราะเขามาไม่ชอบธรรม แม้รัฐธรรมนูญจะร่างและผ่านไปแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมีใครไม่รู้มาแก้รัฐธรรมนูญใหม่ นี่มันเป็นการฟังเสียงของประชาชนไหม นี่คือการต่อสู้ในประวัติศาสตร์ ที่ไม่สามารถลดทอนข้อเรียกร้องได้ ดังนั้นเราจะสู้กันต่อไปแบบเคียงบ่าเคียงไหล่ ต่อให้ผมจะใส่ขาปลอมแต่ใจจริง หรือต่อให้เขายึดขาก็จะไปกับทุกคน เราจะไม่ทิ้งใคร” นายณัฐชนนกล่าว
นายณัฐชนนกล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนของตนที่พูดความจริงถึงต้องถูกจับถ้าอยู่ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยจริง
“สุดท้ายอยากฝากไปถึง นร. นศ. นิสิต ครูอาจารย์ ผม เพนกวิน รุ้ง ขอเรียกร้องให้องค์การสภานิสิตทั่วประเทศ นิสิต นศ. ทุกคนหยุดเรียน มาสร้างประชาธิปไตยด้วยกัน และขอเชิญครูอาจารย์ด้วย เนื่องจากลูกศิษย์มาอยู่บนท้องถนนด้วยกันหมดแล้ว จึงขอเรียกร้องให้ครู อาจารย์ ศาสตราจารย์ทุกคนออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยร่วมกัน รวมถึงพี่น้องกลุ่มแรงงานด้วยให้หยุดงานมาเรียกร้องประชาธิปไตยด้วยกัน เราทั่วประเทศจะรวมตัวกันเรียกร้องประชาธิปไตยแบบเต็มใบไปด้วยกัน และขอคารวะหัวใจของคนที่มารวมตัวกันเรียกร้องให้ปล่อยเพื่อนเรา ขอบคุณทุกคนที่วันนี้ทุกคนออกมา ขอกราบหัวใจของทุกคน” นายณัฐชนนกล่าว
จากนั้นเวลา 21.00 น. นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี กล่าวว่า หากวันนี้เพื่อนของเราไม่ถูกรัฐบาลเผด็จการกระทำ เราจะไม่มานั่งตรงนี้ มีคนถามว่าเข็ดไหม ตนบอกว่าถึงร้อยหมายเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน และคนนนท์ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และตนก็มองว่าต่อให้จะเปิดสภาในวันที่ 26-27 ตุลาคมนี้ก็เป็นการประวิงเวลาอยู่ดี ทางออกคือพลเอกประยุทธ์ลาออก
“เชื่อว่าตอนนี้ผู้มีอำนาจกำลังจะปล่อยตัวแกนนำ เพราะถ้าไม่ปล่อยแกนนำจะไปปลุกระดมคนในคุกแน่นอน ตอนที่ตนถูกจับอยู่แล้วถูกนำไปขังกับคนที่ถูกจับในคดีข่มขืน ค้ายา เขาถามผมว่าถูกจับในข้อหาอะไร ผมบอกว่าเขา ม.116 เขาว่าใครเป็นคนฟ้อง ผมก็บอกว่าจะมีใครก็ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผมคิดว่าเขาจะรังเกียจผม แต่พอมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถือหมายส้มมา พวกเขาที่นอนอยู่ในห้องขังเดียวกับผม แล้วไชโยบอกให้ผมออกมาต่อสู้เพื่อพวกเขาด้วย” นายชินวัตรกล่าว
จากนั้น ‘วงโคตรเจริญ’ ขึ้นแสดงดนตรี โดยมีนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ร่วมแจมบนเวทีด้วย สำหรับเนื้อหาเพลงของวงโคตรเจริญเกี่ยวข้องกับการศึกษาไทยที่ไม่ตอบโจทย์ และการเมืองไทยที่ทำให้ตนต้องออกมาไล่เผด็จการ
