‘สหายแซม’ ชี้ม็อบนี้ต้องอดทนอีกนาน ‘สามัญชน’ ครวญเพลงขับกล่อมนักสู้ในที่คุมขัง
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ภาคีนิรนามมีการจัดกิจกรรม “นอนแคมป์ไม่นอนคุก” เพื่อกดดันเรียกร้องให้มีการปล่อยบุคคลที่ถูกจับกุมตัวไว้ในเรือนจำ โดยมีการผลัดกันปราศรัยอย่างต่อเนื่อง
เวลาประมาณ 21.30 น. วงสามัญชน ขึ้นแสดงโดยขับร้องบทเพลงที่แต่งขึ้นใหม่ มีเนื้อหาเกี่ยวกับความฝันที่ต้องอดทน โดยจะไม่ท้อต่อโชคชะตา ไม่ว่าเมื่อไหร่จะถึงความฝัน ขอให้ทุกคนช่วยเติมพลังให้แก่กันและกัน โดยระบุว่า ขอมอบให้กลุ่ม We Volunteer ซึ่งนำโดยนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ , หน่วยพยาบาล, แก๊งแครอท (พระสงฆ์), ซีไอเอ (รถขายเร่), นักศึกษาอาชีวะที่มาเป็นการ์ด และตัวเอง
จากนั้นวงสามัญชนร้องเพลง ‘อยากจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้’ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการสนับสนุนให้มีรัฐสวัสดิการ ตามด้วย ‘บทเพลงของสามัญชน’ ซึ่งเป็นเพลงที่แต่งขึ้นในช่วงแรกๆของวง โดยร้องให้ผู้ที่ยังถูกคุมขังอยู่
ต่อมา ‘สหายแซม’ อดีตเลขาธิการสหพันธ์นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทยขึ้นเวทีอ่านบทกวี ‘หมดจิตหมดใจจะใฝ่ฝัน’
เนื้อหาตอนหนึ่งว่า
‘ความรู้สึกท้อแท้ก่อเกิดได้
และมิใช่ความผิดความคิดต่ำ
ทุกคนเมื่อหนาวเหน็บก็เจ็บจำ
ทุกคนเมื่อเจ็บช้ำชักท้อใจ
แต่คนที่ผิดหวังแล้วยังสู้
ก็คือผู้ที่โลกพร้อมจะยอมให้
ไม่ใช่คนแปลกประหลาดประการใด
และมิใช่มีแต่กลุ้มสุมกมล’
สหายแซม กล่าวว่า นี่ถือเป็นม็อบที่ต้องอดทนอีกนาน เพราะข้อเรียกร้องยาวไกล ไม่รู้ว่าถนนสายนี้จะสิ้นสุดตรงไหน แต่เห็นแสงไฟสุดปลายทาง และถ้ายังเดิน ยังคลาน สักวันต้องไปถึง
จากนั้น หนึ่งในอดีตผู้ต้องขังอ่านบทกวี ต่อด้วยเพลง ‘เราคือเพื่อนกัน’ โดยวงสามัญชน
ทั้งนี้ ในช่วงหนึ่งผู้ชุมนุมแตกตื่น เนื่องจากเกิดเหตุบางประการขึ้นตรงข้ามเวที นักศึกษาอาชีวะรีบระงับสถานการณ์ โดยมีการนำตัวชายคนหนึ่ง ออกไปหลังเวทีปราศรัย ผู้สื่อข่าวสอบถามกลุ่มนักศึกษาอาชีวะซึ่งรับหน้าที่เป็นการ์ดม็อบ ได้ข้อ มูลว่าการ์ดม็อบตรวจพบอาวุธปืนในตัวชายคนหนึ่ง ซึ่งนักศึกษาอาชีวะสงสัยว่าอาจเป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ไม่มีเหตุวุ่นวายจากกรณีดังกล่าวหลังจากนั้น