นักวิชาการ ‘ทีดีอาร์ไอ’ แนะ รบ.ปรับ mind set ใหม่ แบ่งฝ่ายไม่แก้ความขัดแย้ง ชี้เปิดสภาไม่พอ

นักวิชาการ ‘ทีดีอาร์ไอ’ แนะ รบ.ปรับ mind set ใหม่ แบ่งฝ่ายไม่แก้ความขัดแย้ง ชี้เปิดสภาไม่พอ

ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) แสดงความเห็นกรณีการชุมนุม ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศ โดยระบุว่า ส่วนตัวมองว่าความขัดแย้งมีทุกที่ แต่ต้องรู้จักประนีประนอม กรณีนี้เป็นความเห็นต่างคนละเจเนอเรชั่น ผู้ใหญ่ต้องเข้าใจและให้อภัยเด็ก นี่คือลูกหลานที่จะเป็นอนาคตของเรา

“นึกถึงตอนที่เราเป็นวัยรุ่นก็อยากแก้ไขปัญหาเร็วเหมือนกัน ที่สำคัญรัฐบาลต้องบริหารจัดการความขัดแย้งให้ได้ อย่าลืมว่าถ้าคุณ action อะไรไป จะได้รับ re-action อย่างนั้นกลับมา โดยจะต้องปรับไมนด์เซตใหม่ จะมาแบ่งฝ่ายนี้ผิด-ฝ่ายนี้ถูก ไม่ได้ หลักการบริหารความขัดแย้งที่สำคัญคือการเจรจา เพราะไม่ว่าจะจบเร็ว รุนแรง หรือยืดเยื้อ ก็ไม่ดีสำหรับประเทศไทย” ดร.นิพนธ์กล่าว และว่า

“แนวทางการเปิดสภาเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่อาจไม่พอ ต้องมีแนวทางที่ 2 คู่ขนาน เปิดให้มีการเจรจาซึ่งอาจมีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่สองฝ่ายให้การยอมรับทำหน้าที่เป็นคนกลาง การถอยคนละก้าวนำไปสู่ทางออก ตอนนี้เศรษฐกิจไทยบาดเจ็บ ปากท้องบาดเจ็บ ต่างประเทศขยาด เอือมระอา ที่ทะเลาะกันประจำ ฝ่ายหนึ่งต้องแพ้ตลอด หรือต้องรู้จักรอมชอม ใช้สันติวิธี

ผมชื่นชมนักศึกษาที่ประท้วงโดยสงบ เพราะรู้ว่าถ้านองเลือดนำไปสู่การปฏิวัติไม่ดีแน่ เพียงแต่รอให้ทุกคนยื่นมือออกไปช่วย ขอให้ไว้ใจกัน อย่าตั้งข้อสงสัยว่ามีใครอยู่เบื้องหลัง ให้การสนับสนุนอีกฝ่าย”

Advertisement

ดร.นิพนธ์กล่าวตอนท้ายว่า เศรษฐกิจติดลบอยู่แล้ว อาจมากกว่า 8% อย่างที่คาดการณ์ ที่น่าห่วงคือวิกฤตครั้งนี้พังจากฐานราก ต่างจากปี 2540 คนไม่มีงานทำ นักศึกษาจบใหม่ไม่มีงานทำ ต้องแก้ก่อน ไม่เช่นนั้นไม่รู้อีก 3 ปี จะเงยหัวขึ้นหรือไม่ เพราะถ้าการเมืองไม่จบ เศรษฐกิจเดินต่อไม่ได้

ที่มา ประชาชาติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image