บทนำ : อย่าหวงอำนาจ

บทนำ : อย่าหวงอำนาจ

บทนำ : อย่าหวงอำนาจ

การชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดวิกฤตการเมืองในขณะนี้ เพราะเกิดการยื้อเรื่องไว้ แม้เหตุผลที่ต้องแก้นั้นชัดเจน ทั้งความไม่เป็นประชาธิปไตย วิธีการเลือกตั้ง วิธีคำนวณ ส.ส.แบบพิสดาร ส่งผลให้หลังการเลือกตั้ง มีนาคม 2562 เกิดกระแสวิจารณ์รัฐธรรมนูญอย่างรุนแรง พรรคต่างๆ เห็นพ้องว่าจะต้องแก้ไข มีการตั้งกรรมาธิการมาศึกษา ก่อนสรุปเข้าสภาและตามมาด้วยเสนอญัตติแก้ไข 6 ฉบับ นำเข้าสภา แต่เมื่อจะลงมติ ส.ส.พรรครัฐบาลและ ส.ว.ร่วมมือกัน ตั้งกรรมาธิการมาศึกษาก่อนลงมติอีกครั้ง ใช้เวลา 30 วัน และขยายเวลาอีก 15 วัน

บัดนี้ กรรมาธิการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนลงมติรับหลักการ เสนอรายงานต่อรัฐสภาแล้ว ส.ส.หลายพรรคระบุว่า เป็นรายงานที่ไม่มีประโยชน์ อย่างไรก็ตาม เมื่อระยะเวลา 45 วันในการพิจารณาสิ้นสุดลง รัฐสภาคงกำหนดวันประชุมลงมติอีกครั้ง และน่าจับตาว่า ทางรัฐบาลและ ส.ว.จะหาทางเตะถ่วงต่อไปอย่างไรอีกหรือไม่ และล่าสุด รัฐบาลได้สนับสนุนให้เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อฟังความเห็นจากรัฐสภาในปัญหาการเมืองที่เกี่ยวพันกับการชุมนุม โดยไม่มีการลงมติในวันที่ 26-27 ตุลาคม

จากการชุมนุมที่รัฐบาลใช้กำลังตำรวจสลายแต่ไม่สำเร็จ บัดนี้ มีการชุมนุมของอีกฝ่าย เกิดการเผชิญหน้าในบางพื้นที่ อาทิ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ถึงขั้นเกิดชุลมุน ทำร้ายนักเรียนมัธยม และยกลำโพงทุ่มใส่นักศึกษาได้รับบาดเจ็บ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มเกิดความวิตกว่า อาจจะทำให้เกิดสถานการณ์ย้อนรอยเหมือนกับ 6 ตุลาฯ 2519 ที่รัฐบาลสมัยนั้นไฟเขียวให้กลุ่มพลังเข้าทำร้ายนิสิตนักศึกษา โดยมีเจ้าหน้าที่เข้าปราบปรามไปพร้อมกัน แล้วยึดอำนาจ โดยอ้างว่าเพื่อระงับความวุ่นวาย

Advertisement

ผลทั้งหลายย่อมมาแต่เหตุ หากไม่บิดเบือนเพื่อประโยชน์ของตนเอง ปัญหาผู้ชุมนุมต้องย้อนกลับไปแก้ที่เหตุอย่างเคร่งครัด รัฐบาลและรัฐสภาพึงตระหนักว่าตนเองมีอำนาจหน้าที่ที่จะแก้ปัญหาให้บ้านเมืองสงบร่มเย็น หรือจะใช้อำนาจหน้าที่นั้นเพื่อประโยชน์สถานะความอยู่รอดของตนเอง อำนาจในวันนี้ อาจช่วยปกปิดบางอย่าง แต่ประวัติศาสตร์จะจดจำเรื่องทั้งหมดไว้ แล้วบอกเล่าทั้งหมดในอนาคตอันใกล้ เพื่อจะบอกว่า ใครทำเพื่อประโยชน์ประเทศ และใครที่หวงอำนาจจนชาติเสียหาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image