เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 7 สิงหาคม ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ชั้น 20 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พล.ต.ท.เดชา ชวยบุญชุม ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการออกเสียงประชามติ ตร. ประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการออกเสียงประชามติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศรส.ปต.ตร.) ภายหลังปิดหีบการลงเสียงประชามติ โดย พล.ต.อ.พงศพัศแถลงว่าสรุปพบการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียประชามติ ในวันนี้ มีการดำเนินคดีทั้งหมด 88 คดี เป็นความผิดเกี่ยวกับการฉีกบัตรออกเสียงประชามติ 60 ราย แยกเป็นพื้นที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) 10 ราย กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค (บช.ภ.) 1 จำนวน 11 ราย บช.ภ.2 จำนวน 8 ราย บช.ภ.3 จำนวน 8 ราย บช.ภ.4 จำนวน 1 ราย บช.ภ.5 จำนวน 6 ราย บช.ภ.6 จำนวน 7 ราย บช.ภ.7 จำนวน 5 ราย บช.ภ.8 จำนวน 2 ราย บช.ภ.9 จำนวน 2 ราย ขณะที่ความผิดฐานขัดขวาง กกต. มีจำนวน 1 ราย ในพื้นที่ บช.น. และความผิดฐานจำหน่ายสุรามี 27 ราย แยกเป็นพื้นที่ บช.น. 6 ราย บช.ภ.1 จำนวน 2 ราย บช.ภ.2 จำนวน 1 ราย บช.ภ.3 จำนวน12 ราย บช.ภ.4 จำนวน 2 ราย บช.ภ.7 จำนวน 2 ราย และ บช.ภ.9 จำนวน 1 ราย โดยรวมทุกฐานความผิดทั้งสิ้น 88 ราย
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า ภาพรวมในวันนี้ถือว่ามีความเรียบร้อย ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งผู้กระทำผิดที่เจตนาและไม่เจตนา ให้ข้อมูลเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับสั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจสันติบาลและหน่วยงานด้านความมั่นคง ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ หลังการออกเสียงประชามติ ว่าจะออกมาเคลื่อนไหวหรือไม่ ตำรวจมีข้อมูลของกลุ่มต่างๆ อยู่แล้ว โดยเฉพาะการประกาศรวมตัวกันของกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยยืนยันว่าหากมีการกระทำความผิด หรือขัดคำสั่ง คสช.จะต้องดำเนินคดีทั้งหมด ส่วนกรณี พ.ต.ต.พลกฤษณ์ พึ่งจิตต์ สารวัตรสังกัดโรงเรียนนายร้อยตำรวจ มีการนำบัตรออกนอกหน่วยและทำลายบัตรออกเสียงประชามตินั้น มีการแจ้งข้อหากับ พ.ต.ต.พลกฤษณ์ และเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งแล้ว แต่จากการสอบสวนเบื้องต้นเชื่อว่าไม่มีเจตนา
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสเกมจับโปเกมอนกำลังได้รับความนิยม พบมีการเข้าไปจับโปเกมอนในหน่วยลงประชามติหรือไม่ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่มีรายงานแต่อย่างไร ไม่พบการเข้าไปจับโปเกมอน ขณะที่หีบบัตรลงประชามติแข็งแรงดี ไม่มีตก ไม่มีแตก ดูแลอย่างดี
ด้าน พล.ต.ท.เดชากล่าวว่า ในจำนวน 60 รายที่มีการฉีก ทำลายบัตรลงเสียงประชามติ มีการร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนดำเนินคดีแล้วประมาณร้อยละ 40 ส่วนกรณีเป็นคนที่มีอายุมาก ที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ต้องดำเนินคดีไปก่อน เนื่องจากความผิดสำเร็จแล้ว มีการฉีกบัตรแล้ว อย่างไรก็ตามต้องดูที่เจตนาเป็นสำคัญ ยืนยันตำรวจไม่มีเจตนาไปกลั่นแกล้งใคร ทั้งนี้การดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมมีหลายขั้นตอน ทั้งพนักงานสอบสวน อัยการ ศาล การพิจารณา ต้องดูองค์ประกอบหลายอย่าง บางคนถ่ายภาพ เซลฟี่ บางคนใส่เสื้อที่มีข้อความหมิ่นเหม่ ตรงนี้ต้องพิจารณาว่าผิดกฎหมายลงประชามติหรือไม่ แต่ที่ผิดชัดเจนคือกรณี นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ นายกสมาคมเพื่อเพื่อนและนักกิจกรรมทางการเมือง นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คดีนี้ดำเนินคดีทุกข้อหาเด็ดขาด
“ความผิดในการฉีกบัตรส่วนใหญ่พบว่าเป็นผู้มีอายุมาก เข้าใจผิดว่าบัตรออกเสียงมี 2 ส่วนจึงฉีกออก หากจะดำเนินคดีเอาผิดต้องให้ กกต.มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ในฐานะผู้เสียหาย ส่วนคนมีเจตนาฉีกบัตร เช่น ในพื้นที่ สน.บางนา ดำเนินการโดยเฉียบขาด เนื่องจากมีการกระทำความผิดชัดเจน ส่วนการก่อเหตุอาชญากรรมต่างๆ ในช่วงลงประชามติยังไม่พบ และในพื้นที่ต่างจังหวัดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หลังจากนี้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงานจนไปกว่าจะมีการประกาศผลออกเสียงประชามติอย่างเป็นทางการ” รองผอ.ศรส.ปต.ตร.กล่าว