ส.ว.เสรี ซัดม็อบมีเบื้องหลัง ชี้ทำเกินเลย ใช้เด็กๆ-เยาวชน เป็นแนวหน้าขับไล่รบ.

“เสรี” อัดมีคนอยู่เบื้องหลังม็อบ ใช้เด็ก-เยาวชน ออกมาขับไล่รัฐบาล ทำเกินเลยไปหรือไม่ ชี้ ยังไม่เห็นเหตุผลไล่ “บิ๊กตู่” ออก ขออดทนทำงานต่อ 

เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ (26 ต.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม เพื่ออภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 165 โดยก่อนการอภิปรายจะเริ่มต้นขึ้น ที่ประชุมรัฐสภาได้รับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อน ประกาศพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ.2563

ย้อนอ่าน : บิ๊กตู่ ร่ายญัตติเปิดสภา ยันรบ.จะสร้างสมดุลทุกฝ่าย เข้าใจ ทุกอย่างเปลี่ยนไปตามเวลา

ย้อนอ่าน : สมพงษ์ ชี้ 4ทางออก ขอบิ๊กตู่ลาออก ซัดภาระปท. โวยญัตติรบ.ทำแตกแยก ไม่สร้างสรรค์

ต่อมา เวลา 14.35 น. นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. อภิปรายว่า การชุมนุมที่ส่งผลกระทบต่อขบวนเสด็จถือเป็นบทเรียนสำคัญ ซึ่งต้องดูตามกฎหมายใครทำความผิดก็ต้องถูกดำเนินคดี ตนฝากข้อเสนอแนะฝากไปยังเจ้าหน้าที่ คือต้องมีมาตรการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก เพราะถ้าไปฟื้นฝอยก็จะเกิดความขัดแย้ง ทั้งนี้ การชุมนุมเรียกร้องเกิดจากปัญหาทางการเมือง ไม่ว่า ฝ่ายใดเป็นฝ่ายบริหารก็จะมีอีกฝ่ายออกมาขับไล่ แต่ปัจจุบันมีความแตกต่าง เพราะการชุมนุมไกลไปกว่านั้น นักเรียน นักศึกษา และเยาวชน ออกมาเรียกร้องทางการเมืองขับไล่รัฐบาล ขับไล่นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้มีรัฐธรรมมนูญฉบับใหม่ และปฏิรูปสถาบัน โดยใช้ถ้อยคำที่รุนแรง ขาดความเคารพเกรงใจให้เกียรติกัน ซึ่งในยุคก่อนไม่มีสิ่งเหล่านี้ แต่ปัจจุบันสิ่งที่เกิดขึ้นจะบอกว่านักเรียนและเยาวชน ออกมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยจิตวิญญาณ แต่ความเป็นจริงต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง เพราะถ้าไม่มีคงไม่เลยเถิดมาจนป่านนี้ได้

Advertisement

“การชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้ทำให้เกิดเฉพาะข้อเรียกร้องของเด็กและเยาวชนเท่านั้น แต่มีผลกระทบหลายเรื่องต่อบ้านเมืองทำให้ไม่สงบเรียบร้อย เศรษฐกิจมีปัญหา สังคมแตกแยก เกิดปัญหาในครอบครัว ถามว่านี่คือการเล่นการเมืองแบบเกินเลยไปหรือไม่ คนที่อยู่เบื้องหลังมีความรับผิดชอบในบ้านเมืองมากแค่ไหน ใช้วิธีกระบวนการที่เอาเด็กและเยาวชนออกมาเล่นการเมืองขับไล่รัฐบาล ทำเกินเลยขนาดนี้ถูกต้องเหมาะสมแล้วหรือ ประเทศไทยถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ยาวนานต่อเนื่องเท่ากับถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง และจะเป็นพฤติกรรมตัวอย่างที่คนรุ่นต่อๆไปจะชื่นชมถึงความกล้าหาญกลายเป็นวีรบุรุษ เราต้องการให้สังคมไทยเป็นแบบนี้หรือ” นายเสรี กล่าว

นายเสรี กล่าวอีกว่า แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามแก้ปัญหาบ้านเมือง แต่ยังไม่สามารถอธิบายให้เด็กและเยาวชนเหล่านี้เข้าใจได้ เพราะเขาถูกปลูกฝังความคิดไปแล้ว ดังนั้น การแก้ปัญหาคงไม่ได้อยู่ที่รัฐบาล หรือรัฐสภาเพียงอย่างเดียว แต่ต้องขอความร่วมมือไปยังผู้ปกครองที่บ้าน ครูอาจารย์ ให้ช่วยชี้แนะแนวทางให้เด็กและเยาวชน ให้เข้าใจถึงปัญหาอย่างสมเหตุสมผล โดยที่ไม่ใช้ความรุนแรงหรือบังคับ แต่ต้องอดทนใช้เวลา รัฐบาลก็ต้องอดทน ประชาชนก็ต้องอดทน

“สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นอยากเสนอไปยังรัฐบาล ผมเข้าใจว่าทุกฝ่ายต้องมีความอดทน และต้องไม่ใช้ความรุนแรงซึ่งเป็นนโยบายที่กำหนดไว้ แต่ก็ต้องมองย้อนกลับไปด้วยว่ารัฐบาลก็ทำงานที่เป็นประโยชน์หลายเรื่องมีประสิทธิภาพ ผมจึงแปลกใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นได้อย่างไร มีเหตุผลอะไรที่สมควรหรือเป็นปัญหาจริงๆที่ให้นายกฯออกจากตำแหน่ง ซึ่งผมยังไม่เห็นว่าต้องไปไกลขนาดนั้น และเท่าที่พูดคุยกับประชาชนก็ยังอยากให้นายกฯอยู่ต่อไป แต่รัฐบาลต้องทำประชาสัมพันธ์ผลงานให้ประชาชนรับทราบ การแก้ปัญหาถ้าไปพูดกับเขาตอนนี้เขาไม่ฟัง เพราะเขาตั้งเป้าไว้แล้ว ดังนั้น ต้องนำเสนอนโยบายที่ส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชน ต้องสร้างความอบอุ่นในครอบครัว และในบ้านเมือง จึงขอให้นายกฯ และรัฐบาล อดทนสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่าหยุดยั้ง” นายเสรี กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image