นศ.มรภ.พระนคร แถลงประณามผู้บริหารเบรกชุมนุมไล่เผด็จการ ขวางใช้สถานที่ บ่าย 3 ให้กลับ
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เขตบางเขน กรุงเทพฯ กลุ่ม ‘เสรีชนคนพระนคร’ ซึ่งเป็นการรวมตัวของนักศึกษา มรภ.พระนคร จัดกิจกรรมรวมพลต้านเผด็จการ โดยนัดหมายในเวลา 16.00 น. ที่สนามกีฬาภายในมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงพบว่าสสนามกีฬาดังกล่าวถูกปิดโดยนักศึกษาได้ย้ายไปรวมตัวกันที่อาคารฝึกประสบการณ์วืชาชีพเชิงบูรณาการ โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวนหนึ่งนั่งกระจายตัวบริเวณโถงชั้นล่าง บางส่วนยืนฟังการปราศรัยอยู่โดยรอบ เนื้อหาส่ส่วนใหญ่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมถึงประณามการสลายชุมนุมเที่แยกปทุมวันด้วยการใช้รถฉีดน้ำ
จากนั้น มีการแถลงข้อเรียกร้องหลัก 3 ประการ ได้แก่
1. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
2. แก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560
3. ปล่อยตัวแกนนำและผู้ชุมนุมทุกคน เพราะเป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐาน รวมถึงยุติการคุกคามประชาชน
นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ภาครัฐยุติการปลุกระดมมวลชนให้เกิดความเกลียดชังต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ขอให้หยุดใช้อำนาจคุกคามสื่อมวลชน ควรให้สิทธิ เสรีภาพในการนำเสนอข่าวสาร
ต่อมา นักศึกษาชายกลุ่มเสรีชนคนพระนคร อ่านแถลงการณ์ประณามการตัดสินใจของคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครจากกรณีการออกแถลงการณ์ไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่จัดชุมนุม ทั้งยังให้บุคลากรและนักศึกษาเดินทางออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อกลับที่พักอาศัยได้ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไปโดยไม่ถือเป็นการขาดราชการและการเรียนการสอน
นักศึกษาชายกลุ่มเสรีชนคนพระนคร กล่าวว่า การแสดงจุดยืนทางการเมืองเป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตยที่ทุกคนมีสิทธิ์ในการเรียกร้องถึงสิ่งที่ต้องการ แต่แถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยได้แสดงออกแล้วว่า ไม่ต้องการให้มีการจัดชุมนุม ซึ่งถือเป็นการริดรอนสิทธิและเสรีภาพของนักศึกษาอย่างแท้จริง
“เพียงการแสดงจุดยืนทางการเมือง ไม่ได้เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฏของมหาวิทยาลัยแต่ทางคณะผู้บริหารกลับมองว่าเป็นการกระทำผิด ท่านได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเป็นเผด็จการไม่ต่างจากนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันยองประเทศไทยที่ลุด้วยอำนาจ” นักศึกษาชายกลุ่มเสรีชนคนพระนคร กล่าว ทั้งยังระบุด้วยว่ามีความกดดันจากหลายทาง พวกตนอาจมีแนวคิดไม่ตรงกันกับคณะผู้บริหาร วันนี้มหาวิทยาลัยมีการออกแถลงการณ์ถึง 2 ฉบับ ทั้งที่ฉบับเดียวก็น่าจะเพียงพอแล้ว หรืออาจเป็นการแก้ไขแถลงการณ์ฉบับเดิม ปรับเปลี่ยนมาใช้ฉบับใหม่
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าการเมืองเป็นเรื่องของทุกคน เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ครอบครัวเป็นคนเสื้อแดง จึงได้มีส่วนร่วมในการชุมนุมตั้งแต่อายุ 10 ขวบ และศึกษาด้วยตนเองตลอดมา ในวันสลายขุมนุม ครอบครัวตนก็ได้รับคำสั่งให้อพยพ เนื่องจากบ้านตั้งอยู่ในพื้นที่ ในเหตุการณ์ครั้งนั้น หนึ่งในผู้ถูกยิงซึ่งเป็นกู้ภัย ตนก็รู้จัก
สำหรับโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์กิจกรรมซึ่งมีข้อความเกี่ยวกับการตามหา ‘อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ’ หรืออนุสาวรีย์ปราบกบฎที่สูญหายไป แต่ในวันนี้กลับไม่มีกิจกรรมหรือการปราศรัยในประเด็นดังกล่าวอย่างจริงจัง นักศึกษาชายกลุ่มเสรีชนคนพระนคร กล่าวว่า ในวันนี้มีข้อจำกัดหลายประการ ทั้งที่หลายคนเตรียมหัวข้อปราศรัยมาจำนวนมาก แต่ผู้เข้าร่วมน้อย เนื่องจากมหาวิทยาลัยให้คนออกจากพื้นที่ตามที่ปรากฏในแถลงการณ์ แม้แต่นักศึกษาที่มีกำหนดการสอบในช่วงเวลาหลัง 15.00 น. ก็ไม่ได้สอบ
จากนั้น นักศึกษาร่วมกันชู 3 นิ้วร้องเพลง ‘เพื่อมวลชน’ ของ จิ้น กรรมาชน โดยเปิดแฟลชจากโทรศัพท์มือถือโยกไปมาตามจังหวะ แล้วตะโกน ‘เผด็จการจงพินาศ’ กึกก้องก่อนจบกิจกรรมอย่างสงบเรียบร้อย
