‘ไชยา’ ย้ำแก้วิกฤตได้ ‘บิ๊กตู่’ ต้องลาออก ชี้อยู่นาน ปัญหายิ่งเพิ่ม

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะคณะทำงานทีมเศรษฐกิจพรรค พท.กล่าวว่า การลาออกของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คือ ทางออกในการแก้ไขปัญหาประเทศที่ดีที่สุด จากการประชุมของรัฐสภาเพื่อร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศ ตาม มาตรา 165 เมื่อ 26-27 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น ได้อภิปรายแสดงความคิดเห็นไว้ว่า จากสถานการณ์การออกมาชุมนุมของเยาวชนคนหนุ่มสาว นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ใช้ยุทธวิธีการชุมนุมแบบดาวกระจายไร้ผู้นำทั่วประเทศในขณะนี้ เพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกนั้น เป็นการแสดงออกในพลังบริสุทธิที่มีความปรารถนาต่อบ้านเมืองในฐานะอนาคตของชาติ อยากให้รัฐบาลรับฟังอย่างไม่มีอคติด้วยเหตุด้วยผล เพื่อร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศ

โดยมูลเหตุของปัญหามาจากรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย มีการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร ผ่านกลไกระบบกฎหมายที่ถูกออกแบบไว้ในรัฐธรรมนูญ เช่น ระบบเลือกตั้งที่พิสดาร การให้อำนาจ ส.ว.250 คนร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งตรงกับข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมเรื่องให้ปิดสวิตช์ ส.ว.นอกจากนี้ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ 20 ปี ยังมีอำนาจกำหนดนโยบายสาธารณะที่ครอบงำรัฐบาลในอนาคต และไม่ทันสมัยกับบริบทของสังคมที่มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อีกทั้งการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาดของรัฐบาลนำมา ซึ่งวิกฤติการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้ ประชาชนทำมาหากินด้วยความยากลำบากฝืดเคือง ผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ต้องปิดกิจการ ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ต้องปิดกิจการและเลิกจ้างคนงาน นโยบายและมาตรการการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลที่ออกมากลับไม่ประสบความสำเร็จ กลไกของระบบเศรษฐกิจไม่สนองตอบนโยบายของรัฐบาล หรือแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ภาคธุรกิจที่เป็นแหล่งการจ้างงานยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ หากยังเป็นแบบนี้อยู่จะกระทบถึงระบบเศรษฐกิจทั้งระบบ นอกจากนี้ ภาคการเกษตรซึ่งขณะนี้เข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรกำลังจะออกสู่ตลาด รัฐบาลยังไม่มีมาตรการใดๆ ออกมารองรับเพื่อช่วยเหลือภาคเกษตรกรรมอย่างเป็นรูปธรรมเลย หากปล่อยไว้แบบนี้ เกษตรกรต้องประสบกับการสิ้นเนื้อประดาตัวอย่างแน่นอน

นายไชยากล่าวต่ออีกว่า ปัญหาของประเทศในขณะนี้ เกิดจากการขาดความเชื่อมั่นในตัวผู้นำประเทศ คือตัวนายกรัฐมนตรี เพราะมาจากกลไกที่มาจากการรัฐประหารและไม่มีความเข้าใจในระบบเศรษฐกิจกลับมองปัญหาในมิติเดียวคือ มิติความมั่นคง การจัดสรรงบประมาณก็มุ่งเน้นการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์โดยไม่คำนึงถึงภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศจะเป็นอย่างไร ควรมุ่งเน้นการพัฒนาประเทศด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจมากกว่าการแข่งขันทางด้านสะสมอาวุธ ที่ผ่านมาฝ่ายค้านเคยชี้แนะการแก้ไขปัญหาในแนวทางที่ถูกต้องมาหลายครั้งแต่รัฐบาลไม่ฟัง จนทำให้สถานการณ์เลวร้ายทั้งมิติการเมือง มิติทางด้านเศรษฐกิจ จนเกินจะเยียวยา ครั้งนี้เมื่อรัฐบาลต้องการรับฟังปัญหาจากสมาชิกรัฐสภา อยากชี้แนะว่า ควรเข้าปัญหาก่อนว่าปัญหาของประเทศคืออะไร ปัญหาคือคนไม่มีความเชื่อมั่นในตัวท่านว่าจะบริหารประเทศต่อไปได้ ดังนั้น นักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน คนรุ่นใหม่ เขารู้ว่าหากปล่อยให้ท่านบริหารประเทศต่อไปแบบนี้อีก เขาไม่เห็นอนาคตอันสดใสในวันข้างหน้า เขาจึงออกมาเรียกร้องให้ท่านลาออก และยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้เป็นประชาธิปไตย แต่ท่านกลับมาคุกคามเขา อีกทั้งปล่อยให้มีการม็อบชนม็อบแบบนี้ จะนำมาซึ่งความเสียหายอันใหญ่หลวงจนยากจะแก้ไขได้ อยากขอเตือน พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ว่า รัฐบาลต้องแสดงจุดยืนและแสดงความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา เพื่อสร้างสังคมของประเทศให้อยู่ร่วมกันได้บนความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันอย่างสันติวิธี

“ดังนั้นหนทางเดียวในขณะนี้คือ ต้องยอมรับถึงความล้มเหลวในการบริหารประเทศ การแก้ไขปัญหาต้องแก้ให้ถูกจุด ตัวนายกรัฐมนตรีนั่นแหละคือปัญหาของประเทศ จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เพราะการลาออกคือ การแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองในวิถีทางประชาธิปไตยและเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนด้วยเช่นกัน เพราะยิ่งอยู่นานปัญหาของประเทศจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนยากจะแก้ไข” นายไชยากล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image