“ปิยบุตร”ชี้คำพิพากษาคดีหุ้นสื่อศาลฎีกาฯกับศาลรธน.วินิจฉัยขัดกัน “ธนาธร”ซัดถ้ามาตรฐานเดียวต้องไม่หลุดส.ส.

“ปิยบุตร”ชี้คำพิพากษาคดีหุ้นสื่อศาลฎีกาฯกับศาลรธน.วินิจฉัยขัดกัน “ธนาธร”ซัดถ้าใช้มาตรฐานเดียวกันตนต้องไม่หลุดเหมือนส.ส.ฝั่งรัฐบาล

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่สำนักงานอัยการศาลแขวงปทุมวัน นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิ นายธัญวารินทร์ สุขะพิสิษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พ้น ส.ส. จากกรณีหุ้นสื่อ ว่า กลายเป็น 2 ศาลตัดสินไม่เหมือนกัน คดีนายภูเบศวร์ เห็นหลอด อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ศาลฎีกาดูบริคณห์สนธิ เขียนผลิตสื่อทำสื่อโดนหมด โดยไม่ดูว่าประกอบกิจการสื่อจริงหรือไม่ แต่แนวศาลรัฐธรรมนูญดูว่าประกอบกิจการสื่อจริงหรือไม่ด้วย ปัญหาการตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายภูเบศวร์จะคืนความเป็นธรรมอย่างไร ส.ส.หลายคน เรื่องไม่ควรไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญตั้งแต่แรก สุดท้ายต้องการเล่นงานนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า คนเดียวใช่หรือไม่เลยเกิดปัญหา ใครจะเยียวยาความเสียหายของนายภูเบศวร์ อีกทั้งตอนนายธนาธร ศาลรัฐธรรมนูญบอกบริษัทปิด แต่ไม่ได้ปิดถาวรอาจกลับมาเปิดใหม่ก็ได้ แต่ของ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ปิดเหมือนกันแต่ยกคำร้อง สุดท้ายแนวทางคำวินิจฉัยของศาลจะเป็นแบบไหนกันแน่

เมื่อถามถึงความเห็นต่อการที่จะมีการดำเนินคดีอาญาต่อ นายปิยบุตร กล่าวว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร ไม่ได้รวมข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย ความเห็นหรือเหตุผลประกอบที่ศาลรัฐธรรมนูญเอาไปใช้ในคดี ไม่ได้หมายความว่าต้องเอาไปผูกพันกับศาลอื่น ผูกพันเฉพาะผล แต่เหตุผลข้อเท็จจริงไม่ผูกพัน ตอนพรรคไทยรักไทยถูกยุบคดีจ้างวานพรรคเล็ก พอดำเนินคดีอาญากับ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา สุดท้ายศาลยกฟ้องเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ชัดเจนว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วศาลอื่นไม่จำเป็นต้องเห็นตามนั้น

ด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงนายธัญวารินทร์ว่า พรรคสูญเสีย ส.ส.น้ำดี ที่สู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียมหลากหลายทางเพศ วัฒนธรรมประชาธิปไตย ฝ่ายค้านสูญเสียหนึ่งเสียง ตนในฐานะหัวหน้าพรรคยืนยันเจตนาในการทำพรรคการเมืองที่ดี ไม่ทำให้รู้สึกหวั่นไหว ธัญวารินทร์ฝากฝังให้คนที่เหลือช่วยผลักดันประเด็นที่จุดประกายให้กับสังคมไว้ เป็นประวัติศาสตร์ที่เป็น ส.ส.ข้ามเพศคนแรกของสภา ตนจะรับประกันคุณภาพของการอภิปราย การทำงานในพื้นที่ต่อไป

Advertisement

เมื่อถามถึงข้อเสนอการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ของรัฐบาล จะเข้าร่วมหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ต้องขอดูรายละเอียดกรรมการ สัดส่วน จุดประสงค์ เนื้อหาเป็นอย่างไร ต้องพูดคุยกันเยอะทำด้วยความระมัดระวัง ต้องดูองค์ประกอบ แก้ปัญหาให้บ้านเมืองจริงหรือไม่ หรือเพิ่มความขัดแย้งประวิงเวลาอย่างที่เคยมีมา ถ้ายื้อเวลาหรือยื้ออำนาจเราก็ไม่ต้องการให้คณะกรรมการนี้เป็นเครื่องมือ ต้องพิจารณาอย่างประณีตถี่ถ้วน

ส่วน นายธนาธร กล่าวว่า ถ้าใช้มาตรฐานเดียวกับ ส.ส.ฝั่งรัฐบาล ตนไม่ควรต้องหลุดจากส.ส. กรณีบริษัทที่ตนถือหุ้นหยุดกิจการแล้ว ไม่มีพนักงานเหลืออยู่แล้ว ไม่มีผลิตภัณฑ์ รายได้เหลืออยู่แล้ว ขายหุ้นไปแล้ว จนถึงวันนี้ยังไม่มีใครหักล้างข้อมูลเรื่องการขายหุ้นได้ ไม่มีใครบอกได้ว่าตนมีเจตนาถือหุ้นสื่อเพื่อที่จะให้ข่าวที่เป็นคุณต่อตัวเอง แต่ตนถูกตัดสิทธิ ซึ่ง ส.ส.ฝั่งรัฐบาลคนหนึ่งถือหุ้นสื่อ บริษัทยังดำเนินการอยู่ด้วยซ้ำ สิ่งที่เกิดกับธัญวารินทร์, ตน และน้องนิสิตนักศึกษา นักเรียน ประชาชน ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องความเป็นธรรมในสังคม คือนิติสงคราม ใช้กฎหมายให้พวกเราหวาดกลัวต่อสู้กับความอยุติธรรมในสังคม พวกเรากำลังใจดี เรียนรัฐบาลว่าการคิดแบบนี้ คิดว่าถ้าเด็ดหัวแกนนำได้ เอาแกนนำเข้าคุกได้เรื่องจะจบ เอาตน, นายพิธา, นายปิยบุตร และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า เข้าคุกได้เรื่องจะจบ อันนี้คิดผิด เพราะตั้งโจทย์ผิด

“โจทย์ที่ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าพวกเราอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของนักศึกษา พวกเราเป็นคนยุยงปลุกปั่นนักศึกษา พอตั้งโจทย์แบบนี้ วิธีการแก้ปัญหาก็เป็นแบบนี้ ก็คือเอาคนที่อยู่เบื้องหลัง เอาคนที่เป็นแกนนำข้างหลังออกไปให้หมด จับเข้าคุกให้หมด ทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิม โจทย์มันผิดครับ พวกเขาที่อยู่ข้างนอกนั่น เคลื่อนไหวด้วยเจตนารมณ์อันเป็นเสรีของพวกเขาเอง ไม่มีผม ไม่มีคุณพิธา ไม่มี อ.ปิยบุตร ไม่มีคุณพรรณิการ์ พวกเขาก็จะสู้ต่อ พวกเขาก็จะเรียกร้องในสิ่งที่ถูกต้องต่อ พอตั้งโจทย์ผิด เข้าใจปัญหาสังคมผิด ก็นำมาสู่วิธีการแก้ปัญหาที่ผิด การจับพวกเราและแกนนำคนอื่นๆ เข้าคุก ไม่ทำให้ปัญหาจบหรอกครับ มีแต่จะยิ่งทำให้ความโกรธแค้นของประชาชนบานปลายมากขึ้น” นายธนาธร กล่าวและว่า พี่น้องประชาชนรู้เข้าใจความไม่เป็นธรรม พวกเราเข้มแข็งขวัญกำลังใจดี ขอให้ทุกคนทำหน้าที่พลเมืองในระบอบประชาธิปไตยให้ดีที่สุด

Advertisement

สำหรับความมั่นใจในการสู้คดีแฟลชม็อบ นายพิธา กล่าวตอบสั้นๆ ว่า “มั่นใจในความบริสุทธิ์”

ผู้สื่อข่าวถึงกรณี น.ส.หฤทัย ม่วงบุญศรี แกนนำกลุ่มไทยภักดี เดินทางไปติดตามความคืบหน้าคดีของนายปิยบุตรที่ สภ.ปากเกร็ด นายปิยบุตร กล่าวว่า นักร้องก็ปฏิบัติหน้าที่ของนักร้องไป ตนก็ตั้งแต่ใช้ชีวิตกันมา วันนี้อาจจะเป็นจำเลยวันแรกในชีวิต คดีก็เต็มไปหมด เป็นนักวิชาการไม่มี พอเข้าสู่วงการเมืองก็มีทันที เข้ามาเรื่อยๆ ไม่หยุด แต่ไม่เป็นไร ยิ่งมีคดียิ่งเป็นประกาศนียบัตร สิ่งที่พวกเราตะโกนเล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับน้องนักเรียนนิสิตนักศึกษาเยาวชน เขากล้าหาญเข้มแข็งมาก โดนอะไรเยอะแยะไปหมด ท้ายสุดประเทศไทยจะดำเนินไปอย่างนี้อย่างนั้นหรือ คือร้องกันไปร้องกันมา หาช่องทางปิดปากโดยใช้กระบวนการทางกฎหมาย โลกสมัยใหม่ใช้อาวุธไม่ได้ ก่อรัฐประหารแบบเดิมไม่ได้ เปลี่ยนวิธีการเอากระบวนการทางกฎหมายมาจำกัดเสรีภาพ ทำแบบนี้มาอย่างต่อเนื่อง ท้ายที่สุดไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นตอ

นายปิยบุตร กล่าวต่อไปว่า เมื่อวานทราบข่าวว่าเร่งเหลือเกิน ไปออกหมายจับนายธนาธร กรณีรู้ว่าขาดคุณสมบัติแล้วไปสมัคร ส.ส. กับกรณีชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เรายังไม่ทราบรายละเอียด เดชะบุญศาลยกคำร้องขอหมายจับ ปัญหาคือตำรวจใช้วิจารณญาณอะไรขอหมายจับ มันต้องมีเหตุโทษสูงสามปีขึ้นไป สงสัยว่าผู้ถูกกล่าวหาจะหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ถ้าจะตั้งข้อหาจริงๆ พวกเราไม่มีหลบหนี เดินทางไปรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งนายกฯ อบจ. ทั่วประเทศ ไม่มีพฤติการณ์หลบหนีอยู่แล้ว แต่ออกหมายจับทำไมไม่ทราบ พี่น้องประชาชนเห็นโจรผู้ร้ายเต็มเมือง ขยันตามจับขนาดนี้ไหม พอเป็นคดีที่พัวพันนักการเมือง กับคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับผู้มีอำนาจรัฐปัจจุบัน ทำไมต้องออกหมายจับเลย เป็นกระบวนการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือจำกัดเสรีภาพ

ผู้สื่อข่าวถามถึงความมั่นใจในการต่อสู้คดีที่ฟ้องนายบุญเกื้อ ปุสสเทโว โฆษกกลุ่มไทยภักดี ฐานหมิ่นประมาทต่อไป น.ส.พรรณิการ์ ระบุ “เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย”

เมื่อถามนายพิธา กรณีถูกนายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษาประธาน กมธ.การกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร แจ้งความกล่าวหาปล่อยเฟกนิวส์รูปผู้ชุมนุมถูกจับในฮ่องกง นายพิธา กล่าวว่า ตนไม่เคยโพสต์เฟกนิวส์เข้าสู่ระบบ เราพูดเกี่ยวกับความโปร่งใสของการสลายการชุมนุม มีประชาชนคนหนึ่งที่เป็นครูนำรูปมาถาม ตนไม่เคยโพสต์เฟกนิวส์ดังที่นักร้องกล่าวหา ขอชี้แจงตรงนี้ มั่นใจว่าไม่ผิด และขอสงวนสิทธิในการดำเนินคดีกลับ ไม่ใช่เพื่อนเล่น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image