หมอเหวงบอก ‘ปรองดอง’ ไม่ต้องแสดง เหตุที่ สน.ประชาชื่น ประจานรัฐ ใช้อำนาจไม่ชอบด้วย กม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.19 น. วันที่ 31 ตุลาคม ที่บริเวณศาลาด้านข้างสะพานลอยสดมภ์อนุสรณ์ นวมทอง ไพรวัลย์ หน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดย นางธิดา ถาวรเศรษฐ, นพ.เหวง โตจิราการ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง เดินทางมาถึงบริเวณสดมภ์อนุสรณ์ นวมทอง ไพรวัลย์ โดยได้เข้าพูดคุยกันประชาชนที่มารอร่วมพิธีวางดอกไม้เพื่อรำลึกถึงนายนวมทอง ไพรวัลย์ คนขับแท็กซี่ที่กระทำอัตวินิบาตกรรม บริเวณหน้าสะพานลอยหน้าสำนักงานไทยรัฐ เพื่อประท้วงการยึดอำนาจในปี 2549 ซึ่งครบรอบ 14 ปี ในวันนี้ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายรอบบริเวณ ก่อนจะเข้าไปวางดอกไม้และพวงหรีด โดยนางธิดา ถาวรเศรษฐ เข้าไปวางดอกไม้เป็นคนแรก จากนั้นยืนเคารพสดมภ์อนุสรณ์ เพื่อระลึกถึงนายนวมทอง ต่อด้วย นพ.เหวง โตจิราการ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง และนางบุญชู ไพรวัลย์ ภรรยาของนายนวมทอง เข้าวางพวงหรีดและดอกไม้ตามลำดับ จากนั้นถ่ายภาพร่วมกัน และเปิดให้ประชาชนเข้ามาวางดอกไม้ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยลงมาเล็กน้อย
นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ตนขอพูดเป็นสองประเด็น ประเด็นแรก เป็นสถานการณ์ฉับพลันเฉพาะหน้า กับสถานการณ์ทั่วไป สถานการณ์ฉับพลันเฉพาะหน้าต้องผ่านสื่อไปถึงนายกรัฐมนตรี ว่าการกระทำของอำนาจรัฐไม่ชอบด้วยกฎหมาย คือไปคุกคาม ข่มขู่ กระทั่งไปลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ถึงขั้นมีการลงมือทำร้ายหรือไม่ ไม่แน่ใจ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนกับนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง เพราะศาลยกเลิกคำสั่งฝากขัง ทั้งสองคนควรได้รับสิทธิเสรีภาพ และตามกฎหมายประมวลอาญามาตรา 68 บอกชัดว่า หมายจับสิ้นสุดไปแล้ว หลังผู้ถูกกล่าวหารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะ จ.นนทบุรี อยุธยา หรือแม้แต่อุบลราชธานีก็ตาม เขาได้มีการรายงานตัวเรียบร้อยแล้ว
“ฉะนั้นอำนาจรัฐ ผมใช้คำว่าอำนาจรัฐเพื่อจะได้มองเห็นชัดๆ ว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องรับผิดชอบ นี่เป็นการประจานครั้งล่าสุดว่าคุณคุกคาม ข่มขู่ประชาชนอย่างแท้จริง ฉะนั้น ขอเรียกร้องให้ยุติการข่มขู่” นพ.เหวงกล่าว และว่า ตอนนี้ไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งดูจากข่าวพบว่า มีตำรวจไปพบไมค์ และทำทีว่าจะจับตัวไป เรียนด้วยความเคารพว่า ตามกฎหมายใช้ไม่ได้ เนื่องจากบอกไว้ชัดแล้วว่า หากผู้ถูกกล่าวหา หรือผู้ต้องหารายงานตัวเรียบร้อยแล้ว หมายจับจะสิ้นอำนาจการบังคับใช้ไปเรียบร้อย ฉะนั้น รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น และหากมีการทำร้ายร่างกาย ซึ่งไม่ทราบว่าประชาชนเสียหายหรือไม่ แต่ถ้าเสียหายก็น่าจะไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าหน้าที่ ให้ลงโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำเกินกว่าเหตุ
“ผมดูจากข่าว ไม่ได้ประสบด้วยตัวเองว่าเพนกวินมีเศษกระจกหลายบริเวณในร่างกาย อาจจะตามร่างกาย ศีรษะด้วย นี่คือการประจานเลยว่า อำนาจดำเนินการไม่ชอบด้วยกฎหมาย นี่คือสถานการณ์เฉพาะหน้า และสถานการณ์เฉพาะหน้าประการที่สอง ขอเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขังให้หมด เพราะว่าคณะราษฎร 2563 เขาเรียกร้องและแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างจากรัฐบาล โดยใช้สิทธิ เสรีภาพ ตามรัฐธรรมนูญ คือการแสดงความคิดเห็นอย่างสงบ สันติ และปราศจากอาวุธ ฉะนั้น รัฐบาลควรพิจารณาปล่อยเขาให้หมด นี่เป็นวิธีการแรกถ้ารัฐบาลต้องการปรองดองจริง ไม่ใช่สักแต่ว่าปรองดองด้วยปากเพราะตอนนี้รัฐบาลพยายามแสดงท่าทีปรองดอง ไม่ต้องแสดง แต่ปฏิบัติเลย คือ ปล่อยคณะราษฎรที่ถูกคุมขังไว้ทั้งหมด และไปยกเลิกข้อกล่าวหาทั้งหมด นี่คือการแสดงความจริงใจ ที่จะทำให้เห็นว่ารัฐบาลต้องการปรองดองจริงหรือไม่ ถ้าคุณต้องการปรองดองจริง คุณต้องทำสิ่งนี้ทันที” นพ.เหวงกล่าว และว่า
สถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลควรต้องตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของประชาชน อย่าไปบอกว่า คนมาชุมนุมแค่แสนคน และจะมาบังคับประชาชน บังคับรัฐบาล นี่ไม่ใช่ แสนคนเป็นแค่ตัวแทนความคิดของคนจำนวนมากทั่วทั้งประเทศ ตนไม่อยากท้าทายรัฐบาลว่า ถ้าคุณต้องการทำประชามติ ก็ลองทำดู จะทำประเด็นอะไรก็แล้วแต่ อาจารย์วิษณุลองไปคิดมาดู เพราะฉะนั้น อยากให้รัฐบาลสนองต่อข้อเรียกร้องของเยาวชน ซึ่งเยาวชนก็ต้องการแค่ให้มีการเลือก ส.ส.ร.จากประชาชนโดยตรง ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญ แล้วก็ให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออก
“โดยสรุปแล้ว รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ควรจะต้องแสดงความจริงใจในสองเรื่องนี้ คือ ปล่อยคนที่ถูกขังทั้งหมด สอง เปิดให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการให้มี ส.ส.ร.มาจากการเรียกร้องของประชาชน แล้วข้อต่อมาคือ พล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออก” นพ.เหวงกล่าว
(ชมคลิป)
