ฟังจากปาก ‘เพนกวิน’ เล่านาทีถูกคุมตัวมาสน.ประชาชื่น บังคับขึ้นรถ-ล็อกคอ-จับแขนลาก

ฟังจากปาก ‘เพนกวิน’ เล่าเหตุการณ์คุมตัวมาสน.ประชาชื่น บังคับขึ้นบนรถ-ล็อกคอ-จับแขนลาก

ผู้สื่อข่าวรายางานว่า นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว  เล่าถึงเหตุการณ์ขณะถูกควบคุมตัวมาที่สน.ประชาชื่น เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ว่า

สิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเราเมื่อวาน

ช่วงบ่ายแก่ ๆ ของเมื่อวานนี้ ศาลอาญารัชดามีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราวผมและเพื่อนผู้ต้องขังทางการเมืองอีกสามคน ได้แก่ รุ้ง ไมค์ และหมอลำแบงค์ เป็นเหตุให้เราได้รับการปลดปล่อยหลักจากสิ้นอิสรภาพไปสิบหกวัน พวกเราผู้ต้องขังชายที่ถูกจองจำด้วยกันก้าวเท้าข้ามจากประตูเรือนจำเพื่อคืนสู่ขบวนการต่อสู้ ทว่า ก้าวยังไม่ทันพ้นประตูเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาลประชาชื่นมาจอดรอเราเพื่อจะอายัดตัวเราตามหมายจับของ สภ.เมืองนนทบุรี และ สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา

เราขอตรวจสอบว่าหมายจับดังกล่าวนั้นคือหมายจับอะไรอย่างไร เมื่อเราได้อ่านแล้วจึงพบว่าเป็นหมายจับที่เคยใช้จับพวกผมไปแล้ว และที่สำคัญคือในคดีตามหมายจับนั้น พนักงานสอบสวนก็ได้แจ้งข้อหาและสอบปากคำพวกผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หมายจับนั้นจึงสิ้นผลไปแล้ว ไม่สามารถใช้จับผมได้อีกเพราะหมายจับหนึ่งใบใช้จับได้ครั้งเดียว จะใช้จับซ้ำไม่ได้

Advertisement

เจ้าหน้าที่จาก สน.ประชาชื่น พยายามหว่านล้อมเราให้ขึ้นรถขนผู้ต้องหาไปกับเจ้าหน้าที่ แต่เราปฏิเสธและได้ชี้แจงตามหลักกฎหมายให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าการจับกุมไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และเราใช้สิทธิเรียกทนายความของเรา เมื่อทนายความของเรามาถึง ก็ได้อธิบายชี้แจงหลักกฎหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังเหมือนที่เราอธิบาย ทว่า ก็หาได้นำพาไม่ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจก็อ้างข้าง ๆ คู ๆ แม้จะยอมรับแล้วว่าหมายจับที่จับไปแล้วไม่สามารถใช้จับได้อีก แต่ก็ต้องจับเพราะ “ปฏิบัติตามหน้าที่ตำรวจท้องที่”

เมื่อการเจรจายืดยาว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เชิญให้ทนายความผมพูดคุยนอกประตูเรือนจำ เมื่อทนายความผมเดินออกไปสักพักหนึ่ง เราเรียกหาทนายความอีกครั้ง แต่คนที่ก้าวเดินมากลับเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ พวกเขาใช้กำลังบังคับให้เราขึ้นไปบนรถด้วยทุกวิถีทาง พวกเขาล็อกคอเรา จับแขนจับขาลากพวกเราขึ้นรถ โดยไม่ยอมแสดงตัวว่าเป็นตำรวจด้วยซ้ำ พวกเขาไม่ยอมแสดงบัตรเพื่อยืนยันว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และไม่แม้แต่จะเปิดเผยใบหน้าที่ซ่อนหลังหน้ากากอนามัยให้เราได้รู้ว่าพวกเขาเป็นใครพี่ไมค์ถูกล็อกคออย่างแรงและมีการใช้กำลังหลายครั้งระหว่างจับตัวเราไปในรถซึ่งก็เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บไปพี่ไมค์สลบไปกว่าสี่สิบนาทีและยังต้องใส่เครื่องวัดคลื่นหัวใจจนถึงทุกวันนี้

ขณะนี้ผม รุ้ง และพี่ไมค์ยังรับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลพระราม 9 และเมื่อใดที่แพทย์อนุญาตให้ผมออกไป ที่แรกที่จะไปก็คือที่ชุมนุมอย่างแน่นอน และในส่วนของการจับกุมนอกกฎหมายและการทำร้ายเรานั้น เราไม่อาจจะปล่อยผ่านได้ เพื่อมิให้มาตรฐานการบังคับใช้กฎหมายในสังคมไทยตกต่ำไปยิ่งกว่านี้

Advertisement

แล้วพบกันครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image