พท.แนะเชิญม็อบ 2 ฝ่ายร่วมหารือ จี้นายกฯ พูดวันแก้รธน.เสร็จให้ชัด

พท.แนะเชิญม็อบ 2 ฝ่ายร่วมหารือ จี้นายกฯ พูดวันแก้รธน.เสร็จให้ชัด

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนว่าพรรค พท.จะเข้าร่วมคณะกรรมการปรองดองหรือไม่ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ว่า เราคิดว่าหากตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาแล้วก็ต้องแก้ปัญหาได้ และหากจะได้รับการยอมรับจะต้องเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาหารือ เพื่อวางโครงสร้างและกำหนดว่าใครจะเข้าร่วมบ้าง คิดว่าควรจะให้กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่ายมาเข้าร่วมหารือเพื่อวางโครงสร้างด้วย เราไม่อยากให้ตั้งขึ้นมาโดยไม่ถามความเห็นหรือผ่านการหารือเพื่อออกแบบโครงสร้าง

นายสุทินกล่าวต่อว่า ทางสถาบันพระปกเกล้า ได้รับหน้าที่ในการออกแบบโครงสร้างควรจะเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารือเพื่อให้ออกแบบโครงสร้างด้วย หากไปทำเองแล้วสุดท้ายไม่ได้รับการยอมรับก็ไม่มีประโยชน์

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ขณะนี้พรรค พท.มีแนวโน้มการตัดสินใจอย่างใด นายสุทินกล่าวว่า เบื้องต้นเราต้องประเมินสถานการณ์ก่อนว่าคณะกรรมการชุดนี้จะเป็นอย่างไร และกระบวนการการวางโครงสร้างได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายหรือไม่

นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า วันที่ 2 พฤศจิกายน แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านจะหารือกันถึงการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ของรัฐบาล เบื้องต้นฝ่ายค้านรู้สึกคล้ายๆ กันว่าเป็นเพียงการซื้อเวลายืดอายุรัฐบาลออกไปเท่านั้น เพราะที่ผ่านมาคณะกรรมการสมานฉันท์ปรองดองเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอในทุกครั้งที่เกิดความขัดแย้ง ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ และไม่มีผลในทางปฏิบัติ เลื่อนลอย ไร้ประโยชน์ ทั้งนี้ ฝ่ายค้านไม่ได้ปฏิเสธกระบวนการเข้าสู่การปรองดอง แต่วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นตัวปัญหา และไม่ได้พิสูจน์ตัวเองเลยว่าต้องการถอยออกจากอำนาจ หรือทำอะไรให้เห็นว่าท่านต้องการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง เช่น เหตุการณ์ที่ไปจับกุมแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมอีกภายหลังได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา จะมาจับแล้วปล่อยแบบนี้ไม่ได้ หรือกรณีของผู้ชุมนุมยังติดคุกจากประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงก่อนหน้านี้ ท่านต้องพิสูจน์ความจริงใจโดยการปล่อยหรือไม่เอาผิดทั้งหมด หรือทำให้อัยการไม่สั่งฟ้อง ซึ่งแตกต่างจากคดีของกลุ่ม กปปส.ที่ทั้งยึดสนามบิน ปิดทำเนียบ แต่คดียังไม่ไปถึงไหน จึงไม่แปลกที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะตั้งคำถาม และไม่ไว้วางใจท่าน

Advertisement

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พล.อ.ประยุทธ์ต้องพูดออกมาให้ชัดเจน กำหนดวันออกมาว่าจะแก้เสร็จเมื่อไร ไม่ใช่พูดแต่ว่ากำลังดำเนินการ ซึ่งก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่มีทิศทางที่จะยุติปัญหาได้ ทั้งนี้ หาก พล.อ.ประยุทธ์พูดออกมาให้ชัดว่าจะแก้รัฐธรรมนูญเสร็จเมื่อไร พร้อมจัดการเลือกตั้ง และท่านประกาศลาออก แบบนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความจริงใจมากกว่า ทั้งนี้ ที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีความปรารถนาดีที่อยากเห็นทุกฝ่ายเข้ามาร่วมแก้ปัญหา แต่ท้ายที่สุดถามว่าใครเป็นผู้มีอำนาจแก้ ซึ่งวิกฤตทั้งหมดอยู่ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์

“สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำเป็นเพียงการสร้างเงื่อนไข ปากบอกว่าอยากปรองดอง แต่สิ่งที่ทำเป็นการโถมไฟยั่วยุ สุดท้ายก็ใช้อำนาจเข้าจัดการปัญหา แบบนี้ก็ไม่จบ กลับสร้างความคับแค้นในใจของผู้ชุมนุมมากขึ้น ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ต้องมีหลักประกัน อยู่ที่ว่าท่านจะเสียสละหรือจะถอยอย่างไร” นายภูมิธรรมกล่าว

 

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image