‘สุวัจน์’ ลั่น ชพน.ชิง อบจ.โคราช ภท.จับมือ พปชร.ส่ง ‘ดร.ยลดา’
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำและประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าวเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ถึงการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และสมาชิก อบจ.นครราชสีมา ในส่วนพรรคชาติพัฒนาจะมีทีมโคราชชาติพัฒนา เขต อำเภอเมือง จำนวน 8 เขต รวมผู้สมัคร 8 คน หรือพร้อมทุกคนทุกเขต ใช้สโลแกนว่า คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน เป็นฐานเสียงที่จะขอรักษาเก้าอี้ที่มั่นทั้ง 8 เขตให้ได้ ว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีการเลือกตั้งตัวแทนของประชาชนในระดับท้องถิ่น อย่างน้อยเป็นสัญญาณที่ดีต่อระบอบประชาธิปไตย ส่วนใครจะได้หรือใครไม่ได้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่อย่างไรประเทศก็ได้ เพราะพอเรามีเลือกตั้งท้องถิ่นเหมือนเราอยู่ในบรรยากาศของประชาธิปไตย อันนี้เป็นสิ่งที่ได้แน่นอนแล้ว การเลือกตั้งนายก อบจ.กับการเลือกตั้ง ส.อบจ.เป็นเรื่องที่ดี
ส่วนการแข่งขันในระดับ อบจ.นครราชสีมา ที่ถือว่าเป็นจังหวัดใหญ่ มีงบประมาณให้บริหารจำนวนกว่า 3 พันล้านบาท จะแข่งขันกันรุนแรงหรือไม่นั้น คิดว่าการเมืองก็แข่งขันกันเต็มที่ ส่วนจะรุนแรงหรือไม่รุนแรงไม่ทราบ แต่ว่าทุกคนก็สู้กันเต็มที่ ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ส่งสัญญาณแล้วจะไม่ส่งชิงสนาม อบจ. ส่วนพรรคอื่นๆ หากจะส่งนั้น คิดว่าการตัดสินใจเรื่องการเมืองท้องถิ่นทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย แต่ละพรรคก็มีวิธีคิดที่แตกต่างกัน บางพรรคอาจจะส่งหรือไม่ส่ง แต่อาจจะมีการสนับสนุนหรืออาจจะตั้งเป็นกลุ่มอิสระก็แล้วแต่ แต่ละพรรคต่างยุทธศาสตร์ที่แตกต่างกันไป
“ผมคิดว่าวันนี้บทบาทของท้องถิ่นสูงมาก โดยเฉพาะที่ จ.นครราชสีมา งบประมาณประมาณ 3-4 พันล้าน เกือบเท่ากับบางกระทรวงเลย และอาจจะมากกว่าบางกระทรวง บางหน่วยงานด้วยซ้ำไป ฉะนั้น งบจำนวนมาก และนครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่ที่รอการเติบโต มีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจ ความเข้มแข็งของท้องถิ่นจะไปเสริมความเข้มแข็งของจังหวัด และความเข้มแข็งของโคราชก็คือความเข้มแข็งของภาคอีสานด้วย ฉะนั้นบทบาทของ อบจ.นครราชสีมา สูงมาก ถ้าเราสามารถเลือกตั้งและได้บุคคลที่ได้รับการยอมรับ มีวิธีคิด มีวิสัยทัศน์ และเข้าได้กับทุกฝ่ายก็จะเป็นประโยชน์ต่อ จ.นครราชสีมา” นายสุวัจน์กล่าว
นายสุวัจน์กล่าวต่อว่า วันนี้ต้องพยายามให้ทุกคนจับมือกันและทำงานเพื่อประเทศ อย่าเพิ่งบอกว่าคนนั้นได้คนนี้ได้ แต่คือไม่เป็นไรใครจะได้ ขอให้เหมือนกับได้คนที่สามารถประสานได้กับทุกฝ่าย ประสานกับภาครัฐได้ ประสานกับในกลุ่มท้องถิ่นได้ มีวิสัยทัศน์ เชื่อว่าจะเป็นคนดี แต่ยังไม่ทราบว่าใครจะได้ เพราะยังไม่ได้เปิดตัวกันชัดเจนว่าใครสมัคร แต่ถ้าเปิดตัวมาชัดเจนก็พอจะรู้แล้วว่าคนนี้ได้เปรียบ คนนี้เสียเปรียบอย่างไร ใครก็ได้ขอให้คนโคราชเลือกก็แล้วกัน ส่วนที่มั่นทั้งอำเภอเมือง ที่มีทั้งหมด 8 เขต มั่นใจว่าจะชนะยกทีม เพราะเดิมเป็นฐานเสียงอยู่แล้ว ฉะนั้น อะไรที่เป็นฐานเสียงก็พยายามรักษาเอาไว้
ด้านความเคลื่อนไหวตัวผู้สมัครเก้าอี้นายก อบจ.นครราชสีมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล และแกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้จับมือกับกำนันป้อ หรือนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ แกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ส่ง ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล ภรรยาของนายวีรศักดิ์ ผู้บริหารโรงแป้งมันเอี่ยมเฮงนครราชสีมา ชิงเก้าอี้นายก อบจ. และได้เร่งลงพื้นที่หาเสียงมาระยะหนึ่งแล้ว โดยฐานเสียงของ ดร.ยลดาได้แก่กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ส่งผลให้ นพ.สำเริง แหยงกระโทก หมอแหยง อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา ผิดหวังอย่างแรง ขอยื่นใบลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และสมาชิก ภท. และเตรียมลงสมัครอิสระในนามของกลุ่มรักษ์โคราช ใช้ฐานเสียง อสม.ทั้งจังหวัด ส่วนพรรคก้าวไกล ส่ง ดร.สาธิต ปิติวรา อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และยังมี นายวิทูร ชาติปฏิมาพงษ์ อดีต นายก อบจ.นครราชสีมา ประกาศตัวลงชิงเก้าอี้นายกในนามอิสระอีกครั้ง
