09.00 INDEX สัญญาณ รัฐประหาร ดังสนั่น สะท้อน ความคิด “ชนชั้นนำ”

ไม่ว่าน้ำเสียงอันมาจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอันสะสมความจัดเจนตั้งแต่ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่า น้ำเสียงอันมาจากกปปส.อันสะสมความจัดเจนก่อนรัฐประหารเมื่อ เดือนพฤษภาคม 2557 สรุปตรงกัน

ในเรื่องการหาทางออกให้กับ “ปัญหา” ซึ่งกำลังกลายเป็น “วิกฤต”อยู่ในปัจจุบันว่า คือ รัฐประหาร

บทสรุปเช่นนี้เหมือนกับจะสะท้อนแนวคิดที่ล้าหลัง แนวคิดที่สำแดงถึงความเป็นปฏิปักษ์ ยืนอยู่ตรงกันข้ามกับพัฒนาการแห่งระ บอบประชาธิปไตย

แต่หากจะย้อนทวน “ข้อเสนอ” อันดำรงอยู่ในท่ามกลางวิกฤตแต่ละครั้งในประวัติศาสตร์การเมืองยุคใกล้ของไทย ในที่สุดบทจบก็มักจะเป็น “รัฐประหาร” เสมอ

Advertisement

เหมือนกับนี่คือสิ่งที่เรียกว่า “วงจรอุบาทว์” ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่เคยหนีหรือรอดพ้นไปได้ แม้จะมีเสียงทักท้วงอย่างหนักก็ตาม

เนื่องจากนี่คือระบบคิดอันดำรงอยู่ในหมู่ “ชนชั้นนำ” ของไทย

หากจำกันได้ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนตุลาคม 2519 ก็เคยมีเสียงทัก ท้วงว่าจะไม่เกิดขึ้นหรอก เพราะหากเกิดขึ้นความเสียหายจะตามมาอย่างมหึมามหาศาล

Advertisement

แต่แล้วก็มีการสร้างสถานการณ์ตั้งแต่เดือนสิงหาคมโดยการให้ จอมพลประภาส จารุเสถียร เข้ามาหยั่งเชิง

เมื่อถึงเดือนตุลาคมก็เป็น จอมพลถนอม กิตติขจร

เช่นเดียวกับเมื่อมีการเปลี่ยนผ่านจากยุค พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เข้าสู่ยุค พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ในเดือนสิงหาคม 2531 กระบวนการทำงานที่ทันสมัยของรัฐบาล

ก็ก่อให้เกิดความคิดว่า รัฐประหารเป็นเรื่องพ้นยุคและล้าสมัยไปแล้ว แม้กระทั่งในหมู่ “ที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก” ซึ่งแวดล้อมอยู่โดย รอบ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ก็คิดเช่นนี้

แต่แล้วในเดือนกุมภาพันธ์ 2534 ก็มีรัฐประหาร

เพราะความคิดในเรื่อง “รัฐประหาร” ไม่เคยเป็นเรื่อง “ล้าสมัย” ในหมู่ชนชั้นนำที่ยึดกุมอำนาจอย่างแท้จริง

การแสดงออกโดยผ่านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยผ่านมวลมหาประชาชนกปปส. ก็คือการแสดงออกโดยผ่าน “ตัวแทน” ในทางความคิด

สะท้อนความต้องการ “บทจบ” ในทาง “การเมือง” สะท้อนความปรารถนาอันมาจาก “ชนชั้นนำ” อันเป็น “นาย” ของพวกเขา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image