เครือข่ายภาคปชช. ร้องกสม.คุ้มครองนักเคลื่อนไหวการเมือง พี่สาว’วันเฉลิม’โอด 5 เดือนไร้คืบหน้า

เครือข่ายภาคปชช. ร้องกสม.ช่วยคุ้มครองสิทธินักเคลื่อนไหวทางการเมือง ยอมรับผิดหวังกสม.เหตุเพิกเฉยต่อหน้าที่ ด้านพี่สาว”วันเฉลิม” โอด ผ่านมา 5 เดือน ไร้ความคืบหน้าเคสน้องชาย

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เครือข่ายภาคประชาชนที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นำโดย น.ส.สิตานันท์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ น.ส.ทิพอัปสร แก้วมณี นักศึกษาม.รามคำแหง นายศิริ นิลพฤกษ์  และนายดนย์ ทาเจริญศักดิ์ ยื่นหนังสือผ่านนายชนินทร์ เกตุปราชญ์ ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานและติดตามการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เรียกร้องให้กสม.ปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองสิทธิของประชาชน โดยเฉพาะนักกิจกรรมทางการเมืองที่มีการเคลื่อนไหวในขณะนี้ เนื่องจากเห็นว่าตลอดระยะเวลาที่มีการชุมนุม กสม.ละเลยเพิกเฉยต่อปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่ได้มีการปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่รัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักการปารีส ที่เป็นหลักสากลเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสถาบันสิทธิมนุษยชนระดับชาติบัญญัติไว้

โดยน.ส.ทิพย์อัปสร กล่าวว่า ขณะนี้ความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นเป็นที่จับตาขององค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการปฏิบัติหน้าที่ของกสม.ที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน แต่กลับพบว่าการชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาชน และเยาวชน กลับมีการจับกุมแกนนำ โดยเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่แสดงตน มีการใช้กำลังเข้าบังคับ ไม่ให้สิทธิในการประกันตัว มีความพยายามที่จะขออายัดตัวสอบสวนแกนนำที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ทั้งที่แกนนำเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา อีกทั้งมีการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม สถานการณ์เหล่านี้เปราะบาง และสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งสังคมคาดหวังจะเห็นบทบาทของกสม.ในการตรวจสอบ แต่ที่ผ่านมากลับพบว่าละเลยเพิกเฉย ซึ่งทางเครือข่ายรู้สึกผิดหวังและเสียใจ จึงต้องการมาเรียกร้องให้กสม.ปฏิบัติหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องบัญญัติไว้

ด้านนายชนินทร์  ชี้แจงว่า ในช่วงที่ผ่านมานับแต่มีการชุมนุมเกิดขึ้น กสม.มีออกแถลงการณ์เพื่อสื่อสารไปถึงรัฐบาลและผู้ชุมนุม มีข้อเสนอแนะให้สองฝ่ายยึดหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อให้ทุก เพื่อให้การแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม ไม่ใช่ใช้มาตรการที่รุนแรงกับผู้ชุมนุม รวมทั้งให้รัฐดูแลความปลอดภัยของผู้ชุมนุม ตลอดจนคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในกรณีผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัว และมีการตั้งคณะกรรมการเฝ้าระวังการละเมิดสิทธิ ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็นคณะกรรมการตรวจสอบเข้าไปติดตามตรวจสอบเมื่อมีการชุมนุมทุกครั้ง มีการส่งเจ้าหน้าที่ลงไปเก็บข้อมูลว่ามีการละเมิดสิทธิหรือไม่ เพื่อนำมาจัดทำรายงานข้อเสนอแนะ ของคณะทำงานเฉพาะเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง

“ยืนยันว่า กสม.เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่มีการร้องเรียนให้ กสม.เข้าไปคุ้มครองสิทธิในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งก็มีการร้องเรียนทั้ง 2 ฝ่าย กสม.จึงตั้งคณะทำงานเป็นรายกรณี ที่จะต้องรับฟังพยานหลักฐาน ส่วนบุคคลที่ถูกจับกุมดำเนินคดี ตรวจสอบแล้วไม่พบว่าถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งกสม.ได้ขอให้เจ้าหน้าที่รัฐดูแลในเรื่องสิทธิและสิทธิในกระบวนการยุติธรรม”

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการชี้แจงทางแกนนำเครือข่ายก็ได้ยกตัวอย่างการละเมิดสิทธิของเจ้าหน้าที่รัฐ กรณีนักศึกษารามคำแหงถูกกลุ่มคนเสื้อเหลืองระหว่างการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งผ่านมา 2 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังจับกุมคนกระทำผิดไม่ได้ แต่ในกรณีของ ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม ถูกทำร้ายร่างกายที่ จ.ฉะเชิงเทรา ตำรวจกลับจับตัวผู้กระทำความผิดได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงกรณีการหายตัวไปของนายวันเฉลิม  สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งขณะนี้ผ่านไป 5 เดือน ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ซึ่งนายชนินทร์ ชี้แจงว่า เรื่องของนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง อยู่ในการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบ ส่วนกรณีของนายวันเฉลิม ทางกสม.ได้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศในการติดตาม ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดที่ได้รับก็ระบุว่า ทะเบียนรถที่ปรากฏอยู่ในภาพไม่อยู่ในระบบ ขณะเกิดเหตุที่ทำให้นายวันเฉลิมหายตัว ไม่มีใครพบเห็นที่จะเป็นพยานได้ ซึ่งกระทรวงต่างประเทศก็ได้มีการแจ้งความคืบหน้าให้ทางกสม.และญาติทราบเป็นระยะ

ด้านน.ส.สิตานันท์ กล่าวว่า วันที่ 4 พฤศจิกายน จะครบ 5 เดือนที่น้องชายหายตัวไป ถ้าถามว่ารัฐบาล และกสม.ทำอะไรบ้างก็มีแค่การแจ้งข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศดังกล่าว ซึ่งกสม.เป็นองค์กรอิสระแต่ทำงานใต้รัฐบาล จะเรียกว่าองค์กรอิสระได้อย่างไร วันนี้ที่ตนยังตามหาวันเฉลิม ยังมีความหวัง ไม่ว่าจะเจอในลักษณะใดก็ตาม แต่ตนเป็นพี่สาวที่ออกตามน้องที่หายไป แต่วันนี้ก็กลับถูกคุกคามจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ติดตามตัวตลอดเวลาทั้งที่ไม่ได้กระทำความผิด ซึ่งตนรู้ว่าเป็นหน่วยงานใด มีภาพถ่ายหมด แต่ไม่รู้จะไปร้องหน่วยงานไหน เพราะไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมไทย ขณะแกนนำเยาวชนที่ออกมาชุมนุมตามสิทธิในขณะนี้กลับถูกจับกุมตัว แล้วไม่ให้ประกันตัว อย่างนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน มีคดีติดตัวกว่า 80 คดี ในโลกนี้มีประเทศไหนที่ยัดข้อหาได้ขนาดนี้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image