สรส. แนะแก้วิกฤตประเทศ ใช้แนวทางศก.พอเพียงนำ จัดรัฐสวัสดิการ ร่าง รธน.ใหม่

สรส. แนะแก้วิกฤตประเทศ ใช้แนวทางศก.พอเพียงนำ จัดรัฐสวัสดิการ ร่าง รธน.ใหม่

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ได้ประชุมร่วมกัน และได้ออกแถลงการณ์เรื่อง การแก้ไขปัญหาวิกฤตของชาติจากที่มาของปัญหาหลากหลายของประเทศ สรส. จึงจัดให้ให้มีประชุมผู้นำสูงสุดและในฐานะที่เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองร่วมกับประชาชนจำนวนมาก ในการขับไล่รัฐบาลที่มาโดยไม่ชอบธรรมตามรัฐธรรมมนูญ และมีการทุจริตคอรัปชั่น ในเหตุการณ์ที่ผ่านมาก่อนรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ เข้าบริหารประเทศ ประสงค์จะให้มีการปฏิรูปประเทศอย่างจริงจังเพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่ และความเป็นธรรมของคนในชาติ โดย สรส. ขอประกาศอุดมการณ์ จุดยืน ซึ่งบัญญัติไว้ในธรรมนูญของ สรส. ว่า สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.)

“จะพิทักษ์รักษาไว้ ซึ่งผลประโยชน์ของประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”

และเสนอต่อรัฐบาลให้เร่งปฏิรูปเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ของประเทศโดยเร่งด่วนที่สุด ดังนี้

ข้อ 1 เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤต และนำพาประเทศไปสู่ความสันติสุข และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยให้นำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นธงนำในการบริหารประเทศ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ลดการพัฒนาประเทศแบบพึ่งพาทุนข้ามชาติ ควบคู่กันไปกับส่งเสริมระบบสหกรณ์รวมทั้งจัดเก็บภาษีแบบก้าวหน้า และจัดให้มีรัฐสวัสดิการที่สำคัญ คือ การให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงการศึกษา และการรักษาพยาบาล อย่างถ้วนหน้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอย่างแท้จริง

Advertisement

ข้อ 2 ต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาดในการป้องกันปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ในทุกระดับให้ลดน้อยลงและหมดไปในที่สุด โดยเฉพาะในรัฐวิสาหกิจทั้งหลายและต้องสร้างระบบการตรวจสอบให้เป็นจริงโดยให้สหภาพแรงงานมีส่วนร่วมอย่างจริงจัง และยุตินโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจในทุกรูปแบบ แต่ต้องปฏิรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ และประชาชน ตามพระราชปณิธานของพระบิดารัฐวิสาหกิจไทย (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)

ข้อ 3 ด้านปฏิรูปทางการเมือง

3.1 การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องให้มีตัวแทน ประชาชนทุกอาชีพมีส่วนร่วม เช่น ตัวแทนผู้ใช้แรงงาน ตัวแทนเกษตรกร ตัวแทนกลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์ ฯลฯ ตามสัดส่วน ของประชากร แต่ละอาชีพ โดยต้องผ่านความเห็นชอบของประชาชนด้วยกระบวนการต้องผ่านประชามติ

Advertisement

3.2 การได้มาซึ่งวุฒิสมาชิกต้องมาจากตัวแทนตามสัดส่วนของประชากรทุกอาชีพ โดยคำนึงถึงประชากรส่วนใหญ่ของประเทศเป็นสำคัญ คือ ผู้ใช้แรงงาน เกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา พี่น้องชาติพันธุ์ และอาชีพอื่น ๆ อย่างเป็นธรรม

3.3 การเลือกตั้งผู้แทนราษฎร ต้องให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้มีสิทธิลงสมัครโดยยกเลิกการใช้เงินเป็นกำแพงขวางกั้น เพื่อให้คนรายได้น้อยทั่วประเทศมีโอกาสสมัครเป็นผู้แทนราษฎรได้ โดยลดค่าสมัครลง
ลดวงเงินการหาเสียงลง ให้คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) จัดเวทีให้หาเสียงผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์อย่างเป็นธรรม เสมอภาค ไม่ควรให้เดินเคาะประตูบ้านหาเสียง เพื่อป้องกันการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง เป็นบ่อเกิดของการทุจริตคอร์รัปชั่น เมื่อได้อำนาจก็คิดทุจริต เพื่อถอนทุนคืนจนเป็นวงจรอุบาทว์ของการเมืองไทยมายาวนาน

3.4 สำหรับการใช้สิทธิ์เลือกตั้งต้องให้มีบัตรสองใบ คือ เลือกพรรค และเลือกผู้สมัครแบบแบ่งเขต และเพื่อลดการซื้อเสียงและสะดวกแก่ผู้ใช้สิทธิ์โดยให้ผู้ที่ทำงาน หรืออาศัยอยู่ที่ใดในวันเลือกตั้ง ใช้สิทธิ์เลือกผู้สมัครเลือกตั้งได้เมื่ออาศัยอยู่ในเขตเลือกตั้งนั้น ๆ โดยไม่ต้องย้ายทะเบียนบ้าน เพื่อให้ประเทศชาติพัฒนาไปสู่ความสันติสุขอย่างยั่งยืน ตามระระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

3.5 การแสดงออกด้วยการชุมนุมของประชาชนทุกกลุ่ม สาขาอาชีพ โดยสงบ ปราศจากอาวุธ ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานย่อมได้รับการคุ้มครองจากรัฐ

สรส. จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน และขอเสนอมาเพื่อให้รัฐบาลได้พิจารณาในการแก้ปัญหาวิกฤตในปัจจุบันโดยเร่งด่วนต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image