เด็กสังคมสงเคราะห์ มธ. ร้อง กมธ.แรงงาน หลังหน่วยงานขู่ไม่รับฝึกงาน เพราะแสดงความเห็นทางการเมือง
เมื่อเวลา 11.11 น. วันที่ 4 พฤศจิกายน ที่รัฐสภาแห่งใหม่ นักศึกษาคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นำโดย นายรชต เอี่ยมตระบุตร นักศึกษามหาวิทยาธรรมศาสตร์ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นายสุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การแรงงาน กรณีที่ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และองค์กร/หน่วยงานจะไม่ส่งและรับนิสิต นักศึกษา เข้าฝึกงาน หลังมีการแสดงออกทางการเมือง โดยนายรชตกล่าวว่า พวกตนกังวลใจว่านิสิต นักศึกษา ที่แสดงออกทางการเมืองจะไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิ หรืออาจถูกเลือกปฏิบัติด้วยเงื่อนไขความเห็นต่างทางการเมือง ประกอบกับประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองดูแลรับรองสถานภาพนักศึกษาฝึกงาน และยังไม่บัญญัติไว้ในกฎหมายทำให้เกิดการละเมิดสิทธิของนักศึกษาฝึกงาน เช่น การไม่จ่ายค่าตอบแทนระหว่างการฝึกงาน ไม่มีสัญญาจ้างงาน ไม่มีสวัสดิการจ้างงาน ในครั้งนี้พวกตนจึงมีความประสงค์ให้ประธาน กมธ.มีจดหมายเผยแพร่ไปถึงกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รวมถึงกระทรวงแรงงาน เร่งผลักดันกฎหมายให้มีประกันให้นักศึกษาฝึกงานโดยเร็วที่สุด และในเบื้องต้นให้ประธาน กมธ. เข้มงวดตรวจสอบ ดูแล เลือกปฏิบัติจากทัศนคติทางการเมืองที่อาจจะเกิดขึ้นกับนักศึกษาฝึกงาน ซึ่งเห็นว่า สนท.เคยยื่นหนังสือไปแล้ว พวกตนจึงอยากจะทราบถึงรายละเอียดและความคืบหน้าด้วย
น.ส.มณีรัตน์ จันเทพา หนึ่งในนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า อยากให้ทุกคนมองว่าการออกมาแสดงทางการเมืองเป็นสิทธิ เสรีภาพส่วนตัว ไม่อยากให้มีการคุกคามในสื่อออนไลน์สำหรับนักศึกษาที่กำลังจะไปฝึกงาน อยากสื่อสารไปถึง กมธ.แรงงานเรื่องการคุ้มครองสวัสดิภาพแรงงานของนักศึกษาฝึกงาน เพราะมีหลายคณะที่ใช้ช่องว่างในกฎหมายแรงงานข้อนี้ให้นักศึกษาไปฝึกงาน โดยไม่ได้ครอบคลุมสว้สดิการแรงงานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่ากินค่าที่อยู่ โดยคณะมองว่านี่เป็นการคุ้มครองนักศึกษา ในขณะที่สภาพแรงงาน หรือในที่ทำงานต่างๆ ก็มองว่านี่ไม่ใช่ความรับผิดชอบของพวกเขา เพราะฉะนั้นอยากให้กระทรวงอุดมศึกษาฯและกระทรวงแรงงานคุยกัน และจะให้ความช่วยเหลือ คุ้มครองนักศึกษาได้หรือไม่
ด้าน นายสุเทพกล่าวว่า สำหรับประเด็นการตามเรื่อง การที่จะให้มีกฎหมายเกี่ยวกับการฝึกงาน ทาง กมธ.มีการดำเนินการตั้งอนุ กมธ.ด้านกฎหมายในส่วนที่จะการผลักดันให้มีกฎหมายเกี่ยวกับการจ้างนักศึกษาฝึกงาน ซึ่งจะมีความคืบหน้าในการเปิดประชุมสภาในสมัยนี้ เพราะในการประชุมครั้งก่อนก็ได้มีการสรุปเบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายที่เป็นตัวอย่างออกมาแล้ว มองว่าเรื่องนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับกฎหมายที่คุ้มครองผู้ที่ทำงานแล้ว ที่จะต้องมีกฎหมายมาคุ้มครองนักศึกษาที่จะมาฝึกงานให้มีการควบคุมดูแล ส่วนในเรื่องของคิดเห็นต่างทางด้านการเมือง ในเรื่องนี้ทาง กมธ.ได้ติดตามคนที่ทำงานอยู่ในสถานประกอบการที่มีการคิดต่าง ซี่งไม่ต่างจากนักศึกษาที่กำลังจะโดนกระทำ และตนจะส่งเรื่องที่มีแรงงานที่ถูกเลิกจ้าง และนักศึกษาที่จะมีแนวทางว่าจะไม่ส่งฝึกงานเข้าไปสู่การประชุมกรรมาธิการ และจะมีการสรุปในวันนี้ว่าในส่วนของรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงที่เกี่ยวข้อง กระทรวงแรงงานจะต้องมีการเข้มงวด เพราะในเรื่องของรัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้ในมาตรา 27 เกี่ยวกับเรื่องสิทธิเสรีภาพของการแสดงออก และอนุสัญญา 111 ซึ่งเป็นการไม่เลือกปฏิบัติ ถ้าเรื่องหล่านี้รัฐบาลยังเพิกเฉย ยังไม่ดำเนินการในเรื่องอนุสัญญาก็จะเป็นปัญหาต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใช้แรงงานรวมถึงนักศึกษาจะมีผลกระทบต่อไป
